Last updated: 26 มิ.ย. 2567 | 508 จำนวนผู้เข้าชม |
เครื่องบอกเวลาชั้นสูงและสัญลักษณ์แห่งนักขี่ม้าผู้สง่างามได้มาบรรจบและผสมผสานกันภายในเรือนเวลา Arceau (อาร์โซ) สลับซับซ้อนสูงรุ่นนี้ ด้วยองค์ประกอบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวที่ถ่ายทอดผ่าน triple-axis tourbillon หรือทูร์บิญองแบบสามแกน และระบบตีเสียงบอกเวลา minute repeater
งานออกแบบอันคลาสสิกของนาฬิกา Arceau ได้มอบเวทีแห่งการแสดงออกอันสมบูรณ์แบบให้กับทั้งเครื่องบอกเวลาและงานหัตถศิลป์ที่ทั้งสร้างสรรค์ เช่นเดียวกับเป็นที่ตามหาเสมอ โดยการออกแบบของ Henri d’Origny (อองรี ดอริญี) ในปี ค.ศ. 1978 ที่รูปทรงกลมพร้อมด้วยหูตัวเรือนทรงโกลนอสมมาตรนี้ได้ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ พร้อมทั้งสืบทอดสไตล์อันเรียบง่ายของรุ่นอันคลาสสิกเหนือกาลเวลานี้ได้อย่างแท้จริง เรียบขรึม แต่ก็โดดเด่นด้วยตัวเรือนไทเทเนียมขัดเงาหรือโรสโกลด์ ขนาด 43 มม. ของ Arceau Duc Attelé (อาร์โซ ดุค แอตเทเล) ที่ร่วมตอกย้ำถึงความโดดเด่นของการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างสไตล์และความเชี่ยวชาญแห่งHermès (แอร์เมส) โดยทูร์บิญองกลางแบบสามแกน และจักรกลมินิท รีพีทเตอร์แบบ ‘ส้อมเสียง’ (‘tuning-fork’) ได้มาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเข้ากับโลกแห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูง และสุนทรียะความสง่างามของนักขี่ม้าของ Hermès
การผสมผสานของสองความสลับซับซ้อนหลักเหล่านี้เข้ากับกลไกความถี่สูงเป็นครั้งแรกได้ถูกเผย ณ กลางหัวใจแห่งเรือนเวลา ที่ซึ่งทุก ๆ รายละเอียดทางเทคนิคและสไตล์นั้นได้เผยสิ่งที่มีร่วมกันขององค์ประกอบอันเหนือความคาดหมายและความเอาใจใส่ในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ส่วนบนด้านหน้าปัด กระจกแซฟไฟร์โค้งนูนแบบโดมได้ประกอบอยู่เหนือทูร์บิญองแบบสามแกน รวมถึงกรงไทเทเนียมขัดเงาแบบกระจกทั้งสามด้านที่ขึ้นรูปโดยการซ้อนกันของตัวอักษร “Hs” คู่อันเป็นสัญลักษณ์ของการรวมกันเป็นหนึ่งของ Émile Hermès (เอมิล แอร์เมส) และ Julie Hollande (จูลี ออลลองด์) ในปี ค.ศ. 1900
ตัวอักษรที่คล้องกันเหล่านี้ยังสะท้อนถึงงานโครงเหล็กที่ตกแต่งบนลิฟต์ภายในบูติกดั้งเดิม ณ กรุงปารีส บนถนน 24 เรอ ดู ฟาบูร์ก-แซงต์-โอโนเร (24 Rue du Faubourg-Saint-Honoré) นับเป็นตัวอย่างแห่งชัยชนะของการย่อส่วนจักรกลอันซับซ้อน ที่ทูร์บิญองนี้ได้ประกอบไว้ด้วยแกนแยกกันสามแกนและมีความเร็วในการหมุนต่างกัน (หมุนหนึ่งรอบสมบูรณ์ใน 30, 60 และ 25 วินาที) โดยทำงานภายในวงแหวนชั่วโมงแบบเยื้องศูนย์และโค้ง ส่วนการแสดงชั่วโมงและนาทีนั้นแม่นยำด้วยตัวเลขอารบิกทรงเอียงซึ่งดูคล้ายกับม้าที่กำลังควบกระโจน และเพื่อเสริมความสามารถในการมองเห็นถึงความสำเร็จด้านเครื่องบอกเวลานี้ เข็มชี้รูปทรงกรงเล็บ (claw-shaped) ยังปรากฏอยู่รอบขอบวงแหวนบอกเวลา พร้อมทั้งองค์ประกอบเหลือบสีน้ำเงินที่เติมเต็มให้สมบูรณ์ให้กับการแสดงพลังงานสำรองที่ปรากฏอยู่บนฐานด้านล่างของหน้าปัด
งานสลักตกแต่งกิโยเช่ (guilloché) ที่ชวนให้หวนนึกถึงการแพร่ของคลื่นเสียง ในลวดลายแถบอันทรงพลังของรุ่นไทเทเนียมนั้นสะท้อนถึงรูปทรงของค้อนมินิท รีพีทเตอร์ซึ่งสลักเสลาเป็นดั่งรูปทรงของม้า โดยทำหน้าที่ตีเสียงบอกเวลาชั่วโมง 15-นาที และนาที ที่ควบคุมผ่านตัวสไลด์ซึ่งออกแบบขึ้นเฉพาะและติดตั้งบนด้านข้างของตัวเรือน ค้อนเหล่านี้จะตีลงบนก้านรูปทรงตัว ยู (U) ยืดยาวของฆ้องสตีลเนื้อแข็งขนาดยาวที่สามารถมองเห็นได้รายล้อมรอบขอบของหน้าปัด โดยมีโทนเสียงต่าง ๆ ที่ชวนให้หวนนึกถึงเสียงตีระฆังของโบสถ์ ส่วนโครงสร้าง ‘ส้อมเสียง’ นี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงเสียงสะท้อนอันก้องกังวานมากที่สุด ซึ่งขยายโดยวัสดุซึ่งนำมาใช้สำหรับตัวเรือนที่มีทั้งน้ำหนักเบา และมอบคุณสมบัติด้านเสียงอันล้ำเลิศ
เรือนเวลา Arceau Duc Attelé ทำงานด้วยจังหวะอันแม่นยำเที่ยงตรงที่เป็นผลลัพธ์มาจากการติดตั้งด้วยกลไก Manufacture H1926 พร้อมด้วยบาลานซ์ความถี่สูง 5 เฮิรตซ์ โดยหมายเลขอ้างอิงของกลไกชุดนี้ยังหมายถึงปีที่การทำงานซ่อมบำรุงครั้งสำคัญ ณ บูติกแห่งกรุงปารีส บนถนน ฟาบูร์ก แซงต์-โอโนเร ได้แล้วเสร็จ และทั้งหมดนี้สามารถชื่นชมได้ทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ ที่เชื้อเชิญให้ผู้ซึ่งหลงใหลและนักสังเกตการณ์ด้านจักรกลได้พินิจทั้งความสลับซับซ้อนและความสวยงามของงานฝีมือการตกแต่งเฉพาะหนึ่งเดียวได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเกียร์เฟืองอันน่าทึ่งต่าง ๆ ที่มาพร้อมงานออกแบบสไตล์คัตเอาท์ (cut-out) อันแม่นยำซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Duc attelé (ดุค แอตเทเล) รถม้าสี่ล้อพร้อมหลังคาด้านบนที่ลากโดยม้าสองตัว นับเป็นการเฉลิมฉลองถึงภาพที่ผูกพันอย่างใกล้ชิดกับชื่อของ Hermès ทั้งยังได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดโดยจิตรกรนักวาดภาพสัตว์และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการขี่ม้าชาวฝรั่งเศสแห่งศตวรรษที่ 19 อย่าง Alfred Dreux (อัลเฟรด ดเร็กซ์) ที่ซึ่ง Émile Hermès (เอมิล แอร์เมส) ได้เคยครอบครองไว้ในปี ค.ศ. 1920
ขณะที่แท่นเครื่องและสะพานจักรของกลไก คาลิเบอร์ H1926 ผ่านการเคลือบ PVD สีแอนทราไซต์ ย้ำถึงเฉดสีอ่อนของจักรกลตีเสียงบอกเวลา ส่วนแร็คหัวและแผงคอม้า รวมถึงเฟืองประกอบด้วยซี่ฟันเฟืองต่าง ๆ ได้หยิบยืมมาจากสัญลักษณ์รถม้าของแอร์เมส ตลอดจนสะพานจักรของโครงสร้างจักรกลตีเสียงบอกเวลาที่ทำจากคริสตัลแซฟไฟร์แบบเปลือยโปร่งหรือโอเพนเวิร์ก (openworked) ช่วยเสริมซึ่งเสียงอันไพเราะและชัดใสของระบบมินิท รีพีทเตอร์ ขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นถึงงานฝีมือชั้นสูงของการตกแต่งกลไกอันประณีต รวมถึงหลุมทับทิมทองขนาดใหญ่ และสกรูขัดเงาราวกับกระจก โดยรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชันไทเทเนียมหรือโรสโกลด์ แต่ละเวอร์ชันผลิตเป็นรุ่นจำนวนจำกัดเพียง 24 เรือน นาฬิกา Arceau Duc Attelé อันสง่างามยังจับคู่มากับสายหนังจระเข้สีแอนทราไซต์แบบด้านหรือสีน้ำเงินเข้มแบบด้าน ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันภายในห้องปฏิบัติการ Hermès Horloger (แอร์เมส ออร์โลเฌอร์)
22 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567