AUDEMARS PIGUET Royal Oak Double Balance Wheel Openworked

Last updated: 4 ก.ค. 2567  |  781 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AUDEMARS PIGUET Royal Oak Double Balance Wheel Openworked

Audemars Piguet (โอเดอมาร์ ปิเกต์) แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัวนาฬิการุ่น Royal Oak Double Balance Wheel Openworked รุ่นใหม่ 2 เรือนสำหรับผู้ที่มีข้อมือขนาดเล็ก นาฬิกาขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรเรือนนี้มีให้เลือกทั้งในรุ่นไวท์โกลด์ 18 กะรัตและพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัต ภายใต้รายละเอียดการออกแบบในโทนสีเดียวกันที่ดูหรูหรา ตัดกับเฉดสีฟ้าอ่อนและม่วงที่ขอบตัวเรือนด้านใน การผสมผสานระหว่างความงามสง่าและความประณีตได้อย่างลงตัว ทำให้นาฬิกาทั้งสองเรือนนี้เผยเอกลักษณ์ของกลไกอัตโนมัติจากคาลิเบอร์ 3132 ผ่านรายละเอียดแบบฉลุที่ช่วยเน้นย้ำความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลงานของช่างนาฬิกาจากโอเดอมาร์ ปิเกต์ให้โดดเด่นขึ้นอีกระดับ

โทนสีโมโนโครมสุดโก้
ตัวเรือนและสายของนาฬิกา Royal Oak Double Balance Wheel Openworked ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรใหม่ทั้งสองเรือน รังสรรค์ขึ้นจากไวท์โกลด์หรือพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัตสุดล้ำค่าที่ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยรายละเอียดการตกแต่งสุดประณีตอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน โดยเฉพาะการขัดเงาสลับกับการขัดแบบซาตินที่เล่นกับแสงและช่วยขับเน้นเส้นสายเรขาคณิตในโครงสร้างของนาฬิการุ่น Royal Oak

สีของวัสดุทองคำทั้งสองชนิดยังล้อไปกับโทนสีโรเดียมและโทนสีพิ้งค์โกลด์ของกลไก ทำให้เกิดเอกลักษณ์ของความงามแบบโมโนโครมที่กลมกลืนและหรูหรา ในรุ่นไวท์โกลด์ 18 กะรัต ใช้เข็มนาฬิกาและเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมง พิ้งค์โกลด์เคลือบวัสดุเรืองแสงตัดกับกลไกสีโรเดียม แต้มด้วยขอบตัวเรือนด้านในสีฟ้าอ่อนที่ล้อมรอบรายละเอียดน่าค้นหามากมายภายใน ส่วนรุ่นพิ้งค์โกลด์โดดเด่นด้วยเข็มนาฬิกาและเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงไวท์โกลด์ที่เคลือบด้วยวัสดุเรืองแสงเช่นเดียวกัน กลไกฉลุสีพิ้งค์โกลด์ของนาฬิกาเรือนนี้ยังดูโดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนด้านในสีม่วงสดใส ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันและความทันสมัยให้กับนาฬิกา ทั้งสองเรือนมาพร้อมสัญลักษณ์ “Audemars Piguet” ที่ประทับอยู่ใต้กระจกแซฟไฟร์

ทั้งสองรุ่นยังมีสายหนังจระเข้ “ลายกว้าง” ในสีที่แมตช์กับสีของขอบตัวเรือนด้านในเพิ่มให้อีกหนึ่งเส้น ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความหรูหราและรายละเอียดที่ตัดกันได้อย่างน่าสนใจให้กับดีไซน์ของนาฬิกาเรือนนี้

กลไกอัตโนมัติที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
นาฬิการุ่นใหม่ทั้งสองเรือนใช้กลไกของคาลิเบอร์ 3132 ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อม balance wheel แบบคู่ นวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วนี้ ซึ่ง Audemars Piguet ได้เปิดตัวออกมาเป็นครั้งแรกในปี 2016 เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้นาฬิกามีเสถียรภาพและความแม่นยำในการบอกเวลามากขึ้น การใช้ balance wheel สองชิ้นกับแฮร์สปริงสองชิ้นมาประกอบบนแกนเดียวกัน ให้ผลลัพธ์ของการทำให้กลไกสามารถแกว่งไปพร้อมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกัน balance wheel แบบคู่ที่สามารถมองเห็นได้จากทั้งสองด้านของตัวเรือน ยังนับว่าเผยความพิเศษของการเปิดให้เราสามารถมองเห็นกลไกซึ่งเป็นหัวใจที่กำลังเต้นของนาฬิกาเรือนนี้อย่างที่ไม่สามารถเห็นได้บ่อยครั้งนักอีกด้วย

สะพานจักรแบบฉลุทั้งสองด้านของนาฬิกายังเผยให้เห็นชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนของระบบเฟือง รูปทรงของชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกตัดด้วยเทคนิคการตัดเฉือนแบบซีเอ็นซี (computer numerical control: CNC) ก่อนที่จะได้รับการปรับแต่งให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ จากนั้นแต่ละชิ้นส่วนจะได้รับการตกแต่งด้วยเทคนิคที่สืบสานมาจากอดีต มุมรูปตัว V ที่ผ่านการขัดเงาบ่งบอกถึงความพิถีพิถันของช่างฝีมือ เพราะความแม่นยำในระดับนี้สามารถรังสรรค์ขึ้นได้ด้วยมือเท่านั้น

Oscillating weight แบบฉลุยังมาในสีที่กลมกลืนไปกับสีของตัวเรือน จึงนำเสนอรายละเอียดของสีสันที่ตัดกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับนาฬิกาเรือนใหม่ทั้งสองเรือนนี้

ศิลปะสุดละเมียดละไมของกลไกแบบฉลุ
กลไกแบบฉลุซึ่งผสมผสานความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานเข้าด้วยกันได้อย่างสมดุล เป็นกลไกที่ Audemars Piguet สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ศิลปะการสร้างสรรค์กลไกประเภทนี้ต้องอาศัยการขจัดวัสดุออกจากเมนเพลตและบริดจ์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้แสงสามารถส่องผ่านได้และเผยให้เห็นความงดงามและความประณีตของกลไกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อฟังก์ชันการทำงาน ดังนั้นจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งยวดในการทำงาน ตลอดจนความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัสดุและเทคนิคการตกแต่ง

ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ช่างทำนาฬิการุ่นใหม่ของ Audemars Piguet จำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากช่างรุ่นอาวุโส ตัดสินใจกลับไปทำงานฉลุอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไปในช่วงหลังทศวรรษ 1950 โดยพวกเขาได้ก่อตั้งเวิร์กช็อปแห่งแรกของแบรนด์ที่อุทิศให้กับเทคนิคการทำงานประเภทนี้โดยเฉพาะ จอร์จ โกเลย์ (Georges Golay) ผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของAudemars Piguet ได้ตั้งโจทย์ที่ทั้งท้าทายและทะเยอทะยานให้กับทีมช่างฝีมือไว้ว่า จะต้องสร้างผลงานตัวอย่างของคาลิเบอร์ 2120 ที่เป็นงานฉลุซึ่งต้องอาศัยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์แต่ละกลไกด้วยเวลาอย่างน้อย 150 ชั่วโมงให้ได้ทั้งหมด 100 ชิ้น นาฬิกาเรือนแรก (โมเดล 5442) ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาจนสำเร็จในเดือนพฤศจิกายน 1973 จากช่วงเวลานั้นจนถึงปี 1976 มีนาฬิกาพร้อมกลไกฉลุถูกผลิตออกมาอีก 30 เรือน ในปี 1978 Audemars Piguet ผลิตนาฬิกาที่มาพร้อมกลไกฉลุของคาลิเบอร์ 2120 ออกมาจำนวน 300 เรือน และนับจนถึงปี 1984 Audemars Piguet ได้ว่าจ้างช่างฝีมือเพื่อมาทำงานนี้จำนวน 12 คน

ในช่วงปีแรก ๆ ของคอลเลกชัน Royal Oak กลไกนี้ยังคงถูกซ่อนไว้ภายในตัวเรือน การถือกำเนิดขึ้นของระบบควอตซ์ได้ให้คำจำกัดความใหม่ของการสร้างสรรค์เรือนเวลา และกระตุ้นให้อุตสาหกรรมนาฬิกาเริ่มเผยความงดงามของกลไก รวมถึงทักษะที่สืบสานมาจากอดีตสำหรับการสร้างสรรค์กลไกเหล่านี้ กลไกฉลุปรากฏโฉมครั้งแรกในปี 1981 ในรูปแบบของนาฬิกาพกพา (pendant) ในคอลเลกชัน Royal Oak (โมเดล 5710BA) ตามมาด้วยโมเดล 25636 ในปี 1986 ซึ่งใช้คาลิเบอร์ 2120/2800 ที่มาพร้อมระบบปฏิทินถาวรที่บางเฉียบ ล่วงมาถึงช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นทศวรรษสำคัญของนาฬิการุ่น Royal Oak ที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาในหลากหลายรูปทรงและขนาด ช่วงเวลานี้เองที่ศิลปะการสร้างสรรค์กลไกแบบฉลุสุดละเมียดละไมได้มาถึงจุดสูงสุดในคอลเลกชัน ผ่านการเปิดตัวออกมาครั้งแรกในรุ่น “Jumbo” ในปี 1992

ขอบตัวเรือนด้านในต่างสีของนาฬิการุ่น Royal Oak Double Balance Wheel Openworked ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรช่วยเติมสัมผัสของความพิถีพิถันและความสดใหม่ให้กับนาฬิกาที่รังสรรค์ขึ้นในโทนสีเดียวกันนี้ได้อย่างโดดเด่น © ลิขสิทธิ์จาก Audemars Piguet


ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา คอลเลกชัน Royal Oak เติบโตขึ้นจนครอบคลุมนาฬิกาที่มาพร้อมกลไกแบบฉลุราว 50 รุ่น แต่ละรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไกที่แตกต่างกัน และเปิดตัวออกมาในขนาด วัสดุ และดีไซน์ที่มีความหลากหลาย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและได้รับการสืบทอดต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น และนับจนถึงปัจจุบัน กับการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรทั้งสองเรือนนี้ Audemars Piguet ยังคงผสมผสานงานฝีมือสุดพิถีพิถันเข้ากับความประณีตละเอียดอ่อนถึงขีดสุดเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา

เกี่ยวกับ Audemars Piguet
Audemars Piguet แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจสืบทอดกันในครอบครัวผู้ก่อตั้งมาจวบจนปัจจุบัน (ตระกูลโอเดอมาร์และตระกูลปิเกต์) นับตั้งแต่ปี 1875 โอเดอมาร์ ปิเกต์ยังคงผลิตเครื่องบอกเวลาที่เมืองเลอ บราซูส์ (Le Brassus) โดยสืบสานฝีมือการทำงานของช่างผู้เชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อขยายขอบเขตความชำนาญที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถอันนำไปสู่การก้าวข้ามขีดจำกัดที่เคยมีอย่างต่อเนื่อง Audemars Piguet ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาหรูหราแห่งประวัติศาสตร์มากมาย ณ วัลเลย์ เดอ ฌูซ์ (Vallée de Joux) หนึ่งในต้นกำเนิดของศาสตร์การผลิตนาฬิกาข้อมือชั้นนำใจกลางสวิตเซอร์แลนด์ และสถานที่ซึ่งเผยให้เห็นเอกลักษณ์ความเชี่ยวชาญของคนรุ่นก่อนซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณอันก้าวหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง Audemars Piguet พร้อมแบ่งปันความหลงใหลและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับผู้ที่รักเครื่องบอกเวลาทั่วโลกภายใต้ภาษาแห่งอารมณ์ ผ่านการแลกเปลี่ยนคุณค่าที่หลากหลายในสายงานสร้างสรรค์ที่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจออกไปยังผู้คนทั่วทุกมุมโลก Seek Beyond — audemarspiguet.com

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้