Last updated: 17 ก.ค. 2567 | 710 จำนวนผู้เข้าชม |
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2024 Tีudor ได้ประกาศการกลับสู่โลกของมอเตอร์สปอร์ตด้วยการเป็นพันธมิตรกับทีมแข่งใหม่อย่าง Visa Cash App RB Formula One และเพื่อระลึกถึงความร่วมมือครั้งนี้ Tudor ได้สร้างสรรค์นาฬิกาสุดพิเศษที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับทีมแข่งนี้โดยเฉพาะด้วยการนำรุ่น Black Bay Ceramic ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer มาเปลี่ยนหน้าปัดด้วยการใช้สีน้ำเงิน ที่เข้ากันกับลวดลายอันโดดเด่นของทีม ตอนนี้คุณสามารถสวมนาฬิกาแบบเดียวกับที่ Yuki และ Daniel 2 นักแข่งของทีมซึ่งสวมใส่ในระหว่างที่อยู่ในโรงเก็บรถของทีม
Tudor วางรากฐานเรื่องราวและความสำเร็จของตัวเองกับการแข่งขันในสนามแข่งมาอย่างยาวนาน โดยแบรนด์ได้สนับสนุนทีมผู้ชนะในช่วงยุคทองของกีฬามอเตอร์สปอร์ต เริ่มต้นจากการก่อตั้งทีม Tudor Watch Racing Team ขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ IMSA Tudor United SportsCar Championship จนถึงตอนนี้ ในปี 2024 ทาง Tudor ได้กลับสู่สังเวียนการแข่งขันอีกครั้ง และคราวนี้เป็นความร่วมมือกับทีม Visa Cash App RB ซึ่งเป็นทีมแข่ง F1 ใหม่ถอดด้าม ที่มาพร้อมกับนักแข่งชื่อดังอย่าง Daniel Ricciardo และ Yuki Tsunoda นั่งประจำอยู่หลังพวงมาลัยรถแข่ง
ฟอร์มูล่า วันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นกีฬาที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดชนิดหนึ่ง นี่คือเหตุผลว่าทำไม Black Bay Ceramic จึงถูกสวมใส่อยู่บนข้อมือของบุคลากรในทีม Visa Cash App RB เพราะนาฬิการุ่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแสวงหาความยอดเยี่ยมของกลไกที่ไม่เคยสิ้นสุดของพวกเขา และหลังจากผ่านการทดสอบโดย Federal Institute of Metrology หรือ METAS นาฬิกา Black Bay Ceramic นับเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาและสุนทรีย์ในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง การรับรองในระดับ Master Chronometer ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมนาฬิกา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเที่ยงตรงและความต้านทานต่อสนามแม่เหล็ก องค์ประกอบเซรามิกสีดำด้านและ กลไกแบบ In-House ที่มากับสีดำช่วยเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพอันโดดเด่นของนาฬิการุ่นนี้
และในตอนนี้ นาฬิกาที่ประจำอยู่กับทีม Visa Cash App RB ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีน้ำเงินและสายที่มีลวดลายอันโดดเด่นแบบเดียวกับที่ทีมงานของทีมแข่งนี้ได้สวมใส่อยู่ในการแข่งขันซีซั่นนี้ ได้กลายมาเป็นจริงแล้ว และ Black Bay Ceramic “Blue” ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Tudor ในโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ต
รายละเอียดที่สำคัญ
1.ตัวเรือนผลิตจากเซรามิกสีดำด้านมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร
2.หน้าปัดทรงโดม มากับสีน้ำเงินของทีม Visa Cash App RB พร้อมกับหลักชั่วโมงทรงกลม
3.เข็มแบบ ‘Snowflake’ เอกลักษณ์อีกอย่างที่มีความสำคัญและถูกนำมาใช้ครั้งแรกในนาฬิกาดำน้ำของ TUDOR ที่เปิดตัวในปี 1969 โดยในรุ่นใหม่ได้รับการเคลือบสารกันการสะท้อนแสง Super-Luminova X1 แบบเกรดสวิสส์
4.กลไกที่ผลิตและพัฒนาโดย Tudor เป็นรหัส MT5602-1U ผ่านการรับรองในเรื่องความเที่ยงตรงโดย Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC) และมาพร้อมกับใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิคอน และมีกำลังสำรอง 70 ชั่วใมง
5.ได้รับการรับรองความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer โดย METAS
6.สายหนังแบบไฮบริดที่ผสมระหว่างหนังกับสายยาง และมีการเดินด้ายสีน้ำเงิน ส่วนสายอีกเส้นที่อยู่ในเซ็ตจะเป็นสายผ้าสีดำที่มีลายเส้นสีน้ำเงินคาดอยู่ตรงกลางสาย
7.รับประกัน 5 ปี โดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจเช็คตามระยะที่กำหนด
ผ่านการรับรองจากหน่วยงานอิสระที่มีมาตรฐานสูง
การรับรอง METAS Master Chronometer นั้นครอบคลุมถึงคุณลักษณะการทำงานหลักของนาฬิกา รวมถึงความเที่ยงตรง ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก การกันน้ำ และการสำรองพลังงาน มาตรฐานของการทดสอบถือว่าสูงมาก โดยเริ่มจากความเที่ยงตรง และเพื่อให้มีคุณสมบัติในด้านนี้ นาฬิกาจะต้องทำงานโดยมีความคลาดเคลื่อนในช่วง 5 วินาทีในแต่ละวัน (0/+5) หรือจะต้องน้อยกว่ามาตรฐานของสถาบัน Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC) ซึ่งเป็นการทดสอบแบบที่ยังไม่ได้ติดตั้งกลไกแบบลงในตัวเรือนนาฬิกา 5 วินาที (-4/ +6) และมีค่าการทดสอบน้อยกว่าข้อกำหนดของ Manufacture Calibre น้อยกว่า 1 วินาที (-2/+4) การรับรองยังรับประกันความเที่ยงตรงในการบอกเวลาของนาฬิกาที่อยู่ภายใต้สนามแม่เหล็ก 15,000 เกาส์ และสุดท้าย ยังรับประกันการกันน้ำ ตลอดจนกำลังสำรองอีกด้วย นอกจากนี้ จำเป็นจะต้องมีข้อกำหนดเบื้องต้น 2 ประการก่อนที่จะได้รับการรับรอง นั่นคือ การผลิตในสวิสจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของ Swiss Made และกลไกจะต้องได้รับการรับรองโดย Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC)
เกณฑ์และการทดสอบสำหรับการรับรอง Master Chronometer โดย METAS
การทดสอบและข้อกำหนดเบื้องต้นทั้งหมดที่นำไปสู่การรับรอง Master Chronometer ซึ่ง Black Bay ได้รับ มีดังนี้:
- ผลิตในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
- การรับรองโดยสถาบัน Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC)
- มีความเที่ยงตรงในการทดสอบช่วง 2 อุณหภูมิ ใน 6 ตำแหน่ง และการสำรองพลังงาน 2 ระดับ: 100% และ 33%
- ทำงานได้อย่างราบรื่นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสนามแม่เหล็ก 15,000 เกาส์ หรือยังมีความเที่ยงตรงแม้สัมผัสกับสนามแม่เหล็กในความเข้มข้นระดับนี้
- การกันน้ำ 200 เมตร (660 ฟุต)
- มีพลังงานสำรอง 70 ชั่วโมง
การผลิตกลไก MT5602-1U
กลไกแบบ Manufacturing Calibre ในรหัส MT5602-1U ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนเซรามิก Black Bay แสดงให้เห็นถึงกระบวนการพัฒนาทางเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ TUDOR ด้วยการใช้สถาปัตยกรรมโครงสร้างของกลไกที่ปรับเปลี่ยนได้ สามารถบูรณาการฟังก์ชันใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้าไปได้แทนที่จะเป็นการติดตั้งโมดุลเพิ่มเติม อาจจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับบางคน แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ชำนาญในการผลิตนาฬิกา
นาฬิกาแสดงฟังก์ชันชั่วโมง นาที และวินาที ให้สัมผัสและรูปลักษณ์โดยรวมตามแบบฉบับกลไกที่ถูกผลิตพัฒนาในรูปแบบ Tudor Manufacturing Calibre พร้อมการออกแบบและขัดแต่งแบบ Sun Laser รวมถึงการสลักสิ่งที่สื่อถึง Master Chronometer เอาไว้บนบริดจ์ของกลไก การสร้างสรรค์ที่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานถูกสะท้อนผ่านการใช้โรเตอร์ขึ้นลานที่ถูกผลิตจากวัสดุอย่างทังสเตนในรูปแบบโมโนบล็อก และมีการฉลุชิ้นงานอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการเซาะร่องด้วยเลเซอร์ พร้อมกับการขัดทรายบนพื้นผิวของชิ้นงาน อีกทั้งบนบรดิจ์และชิ้นส่วนหลักของกลไกยังใช้เทคนิคการพ่นทรายและขัดเงาสลับกัน รวมถึงการตกแต่งด้วยเลเซอร์
การผลิตกลไก MT5602-1U มีเป้าหมายในการให้มั่นใจในความแข็งแกร่งและความเที่ยงตรง เพ่อบรรลุวัตถุประสงค์นี้ จักรกรอกจะเป็นแบบแปรผันและปรับสมดุลตามแรงเฉื่อยและถูกติดตั้งอยู่บนบริดจ์ที่แข็งแรงและเป็นแบบ 2 จุดยึด ตัวกลไกผ่านมาตรฐานความเที่ยงตรงของสถาบัน Official Swiss Chronometer Testing Institute (COSC) ด้วยผลงานที่เหนือกว่า โดยตามหลักเกณฑ์แล้ว มาตรฐานของ COSC ยอมให้มีการแปรผันโดยเฉลี่ยในระดับรายวันของกลไกที่ยังไม่ได้บรรจุลงในตัวเรือนอยู่ที่ระหว่าง -4 ถึง +6 วินาที และ Tudor ใช้มาตรฐานในการแปรผันที่กำหนดเอาไว้ในช่วง 6 วินาที (-2/+4) กับนาฬิกาที่ถูกประกอบเสร็จสมบูรณ์ ส่วน METAS กำหนดให้ นาฬิกาที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องมีความเที่ยงตรงในการทำงานโดยมีความคลาดเคลื่อนในช่วง 5 วินาที (0/+5) สำหรับกลไก MT5602-1U นั้น นอกจากจะผ่านการรับรองว่ามีความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดแล้ว กลไกชุดนี้ยังมีความสามารถในด้านความทนทานต่อสนามแม่เหล็กด้วย โดยสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กที่ต่ำกว่า 15,000 เกาส์ได้
อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือพลังงานสำรองของกลไก MT5602-1U ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น คือ “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” มีกำลังสำรองประมาณ 70 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อผู้สวมใส่ถอดนาฬิกาออกและวางทิ้งเอาไว้ในเย็นวันศุกร์ นาฬิกาจะยังทำงานอย่างต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ โดยที่ผู้สวมใส่ไม่ต้องปรับตั้งเวลาใหม่
สัมผัสแห่งความไฮเทค
Tudor Black Bay Ceramic “Blue” ได้ผสมผสานรายละเอียดที่มีความล้ำสมัยเข้ากับการอ้างอิงถึงเรื่องราวในอดีตที่มีความสำคัญของตัวนาฬิกา ตัวเรือนเป็นแบบโมโนบล็อกผลิตจากเซรามิกสีดำด้านมีพื้นผิวพ่นทรายพร้อมขอบนูนที่ถูกขัดเงาเหมือนกระจกเพื่อให้ตัดกันอย่างโดดเด่น อีกทั้งยังมีการขัดแต่งที่เน้นให้เกิดเส้นสายที่มีความชัดเจนขึ้น อินเสิร์ตที่อยู่บนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้เป็นเซรามิกสีดำพร้อมขัดแต่งด้วยลายซาตินแบบซันเรย์
การไล่สีอย่างยอดเยี่ยมบนตัวเรือนช่วยให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของแสงอย่างละเอียด สุดท้ายนี้ สายหนังไฮบริดและสายยางเป็นสีดำมาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในการใช้งาน พร้อมสัญลักษณ์ "Snowflake" ด้านใน ด้านข้างสายเย็บด้วยสีน้ำเงิน และตัวล็อคสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำ รวมถึงสายผ้าสีดำพร้อมลายสีน้ำเงินคาดกลางที่เพิ่มมาให้ในเซ็ต
แก่นแท้ของ Black Bay
คอลเล็กชั่น Black Bay โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาดำน้ำ Tudor ที่ผลิตในช่วงทศวรรษ 1950 โดยยืมเข็มนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ที่นักสะสมรู้จักกันในชื่อ “Snowflake” จากรุ่นที่ปรากฏในแค็ตตาล็อกของแบรนด์ในปี 1969 เม็ดมะยมแบบไม่มีบ่ากันกระแทกและคุณลักษณะของตัวเรือนทำให้นึกถึงนาฬิกาดำน้ำ Tudor รุ่นแรกๆ
นาฬิกา Black Bay เป็นผลมาจากการผสมผสานอย่างละเอียดอ่อนระหว่างสุนทรียภาพแบบดั้งเดิมและการผลิตนาฬิกาแบบร่วมสมัย นั่นจึงไม่ได้เป็นเพียงการนำนาฬิกาดำน้ำรุ่น Tudor ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีกลับมาผลิตใหม่เท่านั้น แต่ก็เป็นการยึดมั่นในการสร้างสรรค์เรือนเวลาด้วยความร่วมสมัย เป็นแนวคิดแบบนีโอวินเทจ แต่เทคนิคการผลิต ความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และคุณภาพของการตกแต่งนั้นสอดคล้องกับข้อกำหนดในปัจจุบันที่มีความเข้มงวดมากขึ้น
การผลิตของ Tudor
นาฬิกา Tudor ทุกเรือนได้รับการประกอบและทดสอบอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานของ Tudor ซึ่งมีระดับที่สูงสุด และมีขึ้นที่โรงงานผลิตแห่งใหม่ของ Tudor ในเมือง Le Locle ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรงงานที่มีความล้ำสมัยแห่งใหม่นี้ได้รวบรวมความรู้ความชำนาญของช่างทำนาฬิกาเข้ากับการจัดการการผลิตและระบบการทดสอบแบบอัตโนมัติที่ดีที่สุด โดยก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2021 หลังจากใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 3 ปี อาคารทั้งหมดตกแต่งด้วยสีแดง Tudor มีพื้นที่สี่ชั้นรวมกว่า 5,500 ตารางเมตร และเชื่อมต่อกับโรงงานผลิต Kenissi ที่อยู่ใกล้เคียงและเป็นโรงงานผลิตกลไกของ Tudor ที่ก่อตั้งในปี 2016 โดยมี Kenissi และเครือข่ายของบริษัทในเครือที่ Tudor เป็นเจ้าของ แบรนด์สามารถบูรณาการการพัฒนาและการผลิตกลไกประสิทธิภาพสูงเข้าด้วยกันได้ ด้วยเหตุนี้ Tudor จึงเชี่ยวชาญการผลิตในเชิงกลยุทธ์ด้านชิ้นส่วน และสามารถรับประกันคุณภาพได้อย่างเต็มที่
การรับประกันของ Tudor
นับตั้งแต่ที่ Hans Wilsdorf สร้างสรรค์แบรนด์ขึ้นในปี 1926 และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับนาฬิกาในอุดมคติ Tudor ผลิตนาฬิกาที่แข็งแกร่ง ทนทาน เชื่อถือได้ และเที่ยงตรงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยระสบการณ์ที่มีความช่ำชองนี้ บวกกับความมั่นใจในคุณภาพที่เหนือกว่าของนาฬิกา Tudor จึงเสนอการรับประกัน 5 ปีสำหรับนาฬิกาทุกรุ่นของแบรนด์ การรับประกันนี้ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือส่งนาฬิกาเข้ารับการตรวจสอบเป็นระยะและสามารถโอนสิทธิ์ได้ อีกทั้ง Tudor ยังแนะนำว่าควรเข้ารับบริการนาฬิกาทุก 10 ปีโดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและขอบเขตการใช้งานในแต่ละวัน
Tudor ‘เกิดมาพร้อมกับความกล้าที่จะท้าทาย’
ในปี 2017 Tudor ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ที่กลายมาเป็นลายเซ็นของแบรนด์อย่าง “Born To Dare” สิ่งนี้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และจุดยืนของแบรนด์ในปัจจุบัน บอกเล่าการผจญภัยของบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างเหนือชั้นทั้งบนบก บนน้ำแข็ง บนอากาศ และใต้น้ำโดยที่มีนาฬิกา Tudor อยู่บนข้อมือ นอกจากนั้น ยังหมายถึงวิสัยทัศน์ของ Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Tudor ซึ่งต้องการผลิตนาฬิกา Tudor ให้มีความทนทานต่อสภาวะที่โหดสุดๆ นาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ที่พร้อมจะท้าทายในทุกรูปแบบ เป็นการพิสูจน์ถึงแนวทางการผลิตนาฬิกาที่เป็นรูปแบบเฉพาะของ Tudor ซึ่งทำให้แบรนด์เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ด้วยการอยู่ในแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา นวัตกรรมของบริษัทได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสำหรับการผลิตนาฬิกาในปัจจุบัน จิตวิญญาณ "Born To Dare" ของ Tudor ได้รับการสนับสนุนทั่วโลกโดยบรรดาแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลโดยตรงจากแนวทางการใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญของพวกเขา
เกี่ยวกับ Tudor
Tudor เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ผลิตในสวิสและได้รับรางวัลจากหลากหลายเวที ด้วยการนำเสนอนาฬิกาจักรกลที่มีสไตล์ที่อันโดดเด่น ความน่าเชื่อถือที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ไม่มีใครเทียบได้ การก่อกำเนิดของ Tudor ต้องย้อนกลับไปในปี 1926 เมื่อ “The Tudor” ได้รับการจดทะเบียนเป็นแบรนด์เป็นครั้งแรกในนามของ Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Rolex เขาก่อตั้งบริษัท Montres Tudor SA ขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี 1946 เพื่อผลิตนาฬิกาที่ยึดมั่นในปรัชญาด้านคุณภาพของ Rolex แบบดั้งเดิมในราคาที่เข้าถึงได้ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา นาฬิกา Tudor ได้รับเลือกจากนักผจญภัยที่กล้าหาญที่สุด ทั้งบนบก กลางอากาศ ใต้น้ำ และบนน้ำแข็ง ต้องขอบคุณความแข็งแกร่งและราคาที่เข้าถึงได้ ปัจจุบัน คอลเลกชัน Tudor มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น Black Bay, Pelagos, 1926 และ TudorRoyal ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา TUDOR ยังได้นำเสนอรุ่นที่มาพร้อมกับกลไกที่ได้รับการผลิตโดยทาง Tudor ซึ่งมาพร้อมกับฟังด์ชั่นที่มีความซับซ้อน และประสิทธิภาพในการทำงานระดับสูง
21 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567
23 พ.ย. 2567
23 พ.ย. 2567