LAURENT FERRIER Grand Sport Tourbillon Sincere Platinum Jubilee Edition

Last updated: 6 ส.ค. 2567  |  790 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LAURENT FERRIER Grand Sport Tourbillon Sincere Platinum Jubilee Edition

Laurent Ferrier (โลวรอง เฟอริเย่) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำผู้มีชื่อเสียงด้านความประณีตบรรจงในทุกขั้นตอนการผลิต และการตกแต่งอันเป็นเลิศ เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปีของ Sincere Fine Watches (ซินเซียร์ ไฟน์ วอทเชชส์) ด้วยนาฬิกา Grand Sport Tourbillon Sincere Platinum Jubilee Edition (แกรนด์ สปอร์ต ทูร์บิยอง ซินเซียร์ แพลทินั่ม จูบิลลี่) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์อันโดดเด่นของ Laurent Ferrier ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาอิสระชั้นสูง ที่มอบทั้งความหรูหราเหนือกาลเวลาและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค โดยนาฬิกาสุดพิเศษรุ่นนี้ผลิตเพียง 12 เรือนเท่านั้น เพื่อสะท้อนถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง Laurent Ferrier และ Sincere Fine Watches ตัวเรือน 18K Red Gold อันทรงคุณค่า บ่งบอกถึงความพิเศษเฉพาะ ในขณะเดียวกันกลไก Tourbillon ที่ซับซ้อน และการตกแต่งอย่างประณีตไร้ที่ติ เผยให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคอันเป็นหัวใจสำคัญของ Laurent Ferrier

ครั้งแรกที่หลากหลายของหน้าปัด
หน้าปัด Sincere Platinum Jubilee Edition มาพร้อมกับครั้งแรกของการพัฒนาสุดล้ำสมัยสำหรับ Laurent Ferrier ทั้งลวดลายกิโยเช่แบบคลื่นที่สะดุดตา ผสมผสานกับเฉดสีเขียวครามและดำไล่ระดับอย่างมีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ผลงานอันน่าหลงใหลเปรียบเสมือนท้องทะเลลึก

Laurent Ferrier ได้ร่วมมือกับ Sincere เพื่อรังสรรค์หน้าปัดที่สวยงามไม่ซ้ำใคร ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ผลิตจากเรดโกลด์กับหน้าปัดสีเขียวเข้มในลายกิโยเช่ที่นับเป็นการนำเสนอสิ่งใหม่หลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจาก Laurent Ferrier และถือเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่มาพร้อมกับหน้าปัดแบบกิโยเช่ในคอลเลคชั่น Grand Sport Tourbillon อีกด้วย นอกจากนี้ สีเขียวอมฟ้าอันเปี่ยมเอกลักษณ์นี้ ยังเป็นสีสันใหม่ที่งดงามจากแบรนด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันของท้องทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นผืนน้ำที่ทอดผ่านสิงคโปร์, ไทย และมาเลเซีย ประเทศที่ล้วนมีร้านค้าปลีกของ Sincere ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง สีสันนี้ถูกเลือกมาเพื่อสื่อถึงความมีชีวิตชีวาและความยืดหยุ่น สะท้อนถึงคุณสมบัติของ Sincere ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา

คุณลักษณะอันโดดเด่นอย่างหนึ่งของนาฬิกา Laurent Ferrier Sincere Platinum Jubilee Edition คือลวดลายคลื่นจากเทคนิคกิโยเช่ ที่ไม่เพียงแต่เสริมสีสันของหน้าปัดเท่านั้น แต่ยังเพิ่มมิติให้กับหน้าปัด ด้วยการไล่ระดับสีดำที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา และตอบสนองต่อแสงในลักษณะที่ชวนให้นึกถึงธรรมชาติอันแปรเปลี่ยนของท้องทะเล นอกเหนือจากแรงบันดาลใจด้านภูมิศาสตร์ ลวดลายมหาสมุทรอันล้ำลึกนี้ ยังสื่อถึงวิสัยทัศน์ของ Sincere ที่มุ่งสู่อนาคตอันไร้ขีดจำกัด ดั่งเช่นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

"การอ่านเวลาได้ง่าย" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญตามหลักการของนาฬิกา Laurent Ferrier ทุกเรือน ในผลงานรุ่นนี้แบรนด์จึงเลือกใช้สารเรืองแสง Super-Luminova สีขาว เคลือบลงบนเข็มนาฬิกาทรงปลายหอกและหลักชั่วโมงทรงหยดน้ำอย่างประณีต ซึ่งลงตัวกับหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่งดงามด้วยลายที่ละเอียดอ่อน และเพื่อขับความโดดเด่นของหน้าปัด เข็มบอกเวลาและหลักชั่วโมงผลิตจากวัสดุไวท์โกลด์อันหรูหรา เคลือบโรเดียมเพื่อช่วยเพิ่มมิติที่น่าสนใจ การผสมผสานของสีสันอันประณีตจากองค์ประกอบเหล่านี้สร้างหน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

รูปทรงอันล้ำเลิศ
การออกแบบตัวเรือนของ Grand Sport สะท้อนให้เห็นถึงเส้นโค้งอันงดงามและคงอยู่ตลอดกาล ดั่งเช่นรถแข่งที่ Laurent Ferrier เคยขับมาก่อน ผลิตจากเรดโกดล์ 5N มุ่งเน้นไปที่ความหรูหราและสง่างาม เหนือกว่านาฬิกาสไตล์สปอร์ตชิคแบบเดิม

ตัวเรือนขนาด 44.0 มิลลิเมตร หนา 13.4 มิลลิเมตร ได้รับการตกแต่งด้วยการขัดพื้นผิวแบบซาติน ตัดด้วยชิ้นส่วนที่ได้รับการขัดเงาอย่างพิถีพิถัน ขอบตัวเรือนทรงคุชั่นมาพร้อมกับการขัดผิวแบบซาตินเป็นวงกลมและด้านข้างที่ขัดเงาเพื่อสร้างมิติที่ต่างกัน ตัวเรือนชิ้นกลางได้รับการตีความในรูปทรงถังเหลี่ยมอีกครั้ง ผสานการขัดแบบซาตินแนวตั้งด้านบน เข้ากับตัวเรือนที่ขัดแนวนอนและด้านข้างที่ขัดเงา ฝาหลังสลักข้อความ "One of Twelve" ด้วยเทคนิคการสลักแบบลึก ซึ่งบ่งบอกถึงความพิเศษเฉพาะตัวของนาฬิกาเรือนนี้ สอดคล้องกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชันนาฬิกา Laurent Ferrier ทุกเรือน ชิ้นส่วนของตัวเรือนผสานกลมกลืนไร้รอยต่อ

กลไกสมรรถนะสูง
ในปี 2023 Laurent Ferrier คว้ารางวัล Best Tourbillon อันทรงเกียรติจากงาน Grand Prix d’Horlogerie de Geneve (GPHG) ด้วยผลงานอันล้ำเลิศอย่าง Grand Sport Tourbillon Pursuit ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกสุดล้ำรหัส LF 619.01 ซึ่งเป็นขุมพลังของนาฬิการุ่นพิเศษ Sincere Platinum Jubilee Edition นี้ โดยเผยให้เห็นกลไกอันทรงประสิทธิภาพผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ ที่มาพร้อมกับสายหนังนูบัก เสริมความสปอร์ตคล่องแคล่วและความแข็งแกร่งอย่างลงตัว กับดีไซน์ที่หรูหรา บนฝาหลังยังมีการสลักโลโก้ของ Sincere’s 70th Anniversary อย่างประณีตงดงาม

ส่วนที่น่าทึ่งเป็นพิเศษนั่นคือ กลไก Tourbillon ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือการประดิษฐ์อันเก่าแก่มากว่าหลายศตวรรษ ที่ริเริ่มโดย Abraham-Louis Breguet (อับบราฮัม-หลุยส์ บริเกต์) ในปี 1801 นวัตกรรมนี้ช่วยลดผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อชุดควบคุมจังหวะของนาฬิกาพก เมื่อนาฬิกาอยู่ในแนวตั้ง โดยใช้สปริงสองอันที่ติดตั้งสลับด้านกันเพื่อช่วยปรับสมดุล แกนไม่ให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง การผสมผสานของระบบเหล่านี้รับประกันความแม่นยำอันยอดเยี่ยม โดยสำรองพลังงานนานเกินกว่า 80 ชั่วโมง สะพานยึดกรง Tourbillon ของกลไกรุ่น LF619.01 โดดเด่นด้วยขอบมุมเอียง การขัดเงา และมุมภายในกว่า 30 มุมที่ล้วนขัดแต่งด้วยมือของช่างที่เปี่ยมความชำนาญ

กลไกของนาฬิกามีเดือยล็อกแบบใบมีดยาว ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามด้วยการตกแต่งลวดลายด้วยมือทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังสร้างเสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ ชวนฟังขณะไขลานนาฬิกาอีกด้วย นาฬิกาเรือนนี้จึงโดดเด่นด้วยการขัดเงาแบบซาตินแนวนอนและการเคลือบโรเดียม เพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวเรือน

ทุกชิ้นส่วนของกลไกได้รับการขัดแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ยกตัวอย่างเช่น สะพานยึดกรง Tourbillon มีขอบแบบเฉียง, การตกแต่งลวดลายคลื่น, การขัดเงาแบบกระจกเงา และขัดเงาในส่วนของเหลี่ยมมุมภายในกว่า 30 องศา ซึ่งล้วนทำขึ้นด้วยมืออย่างประณีตในเวิร์คช็อปของ Laurent Ferrier

นาฬิกา Grand Sport Tourbillon เป็นตัวแทนสูงสุดของงานศิลปะการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมที่ผสานเข้ากับความทันสมัย ความหรูหราของตัวเรือน และหน้าปัดแบบใหม่ ความพิเศษนี้ผลิตจำกัดเพียง 12 เรือน วางจำหน่ายที่ SHH Pendulum Boutique ในราคา 9,388,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เกี่ยวกับ Laurent Ferrier
ในฐานะบุตรชายและหลานชายของช่างทำนาฬิกา Laurent Ferrier เป็นบุคคลสำคัญของแบรนด์ที่ใช้ชื่อของเขาเอง ซึ่งมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับความเป็นเลิศของงานฝีมือการทำนาฬิกาแบบดั้งเดิม ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในด้านการออกแบบนาฬิกา การวิจัยด้านเทคนิค และดีไซน์ภายนอกของตัวเรือนนาฬิกา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ของเขาได้อย่างชัดเจน

Laurent Ferrier เกิดที่เมืองเจนีวาในปี 1946 เขาเข้ารับการฝึกอบรมด้านนาฬิกาอย่างครบถ้วนที่โรงเรียนสร้างนาฬิกาแห่งเมืองเจนีวา หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาได้เริ่มต้นทำงานในแผนกกลไกต้นแบบของผู้ผลิตนาฬิกาที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เขาเป็นผู้ที่หลงใหลในมอเตอร์สปอร์ตอย่างแรงกล้า ผ่านประสบการณ์การเป็นนักแข่งรถสมัครเล่นควบคู่ไปกับอาชีพหลัก ในปี 1974 เขารับผิดชอบการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าตามแบบแผนดั้งเดิม สำหรับบริษัทอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา หลังจากนั้น เขาตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาหรูของตนเอง หลังจากสะสมประสบการณ์การทำงานในบริษัทเดิมเป็นเวลา 37 ปี โดยนาฬิการุ่นแรกของเขาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Baselworld 2010 

Laurent Ferrier ยึดมั่นในความเป็นอิสระ ด้วยการตัดสินใจพัฒนากลไกจักรกลของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการเสี่ยงโชคอันเด่นชัด ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นพื้นฐานสำคัญ ละทิ้งการไล่ตามดีไซน์สุดหรูหรือความแปลกใหม่ ซึ่งนาฬิกาของเขาได้รับการออกแบบ ประกอบ และปรับแต่งภายในโรงนาฬิกาที่เมืองเจนีวา โดยผสมผสานความสวยงามตามหลักความงามเข้ากับความคิดสร้างสรรค์เชิงกลได้อย่างลงตัว

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้