Last updated: 7 ก.ค. 2564 | 878 จำนวนผู้เข้าชม |
PIAGET EXTRAORDINARY LIGHTS
เครื่องประดับอัญมณีที่ เผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่ระหว่าง Paris Couture Week
ย่างเข้าสู่อัศจรรย์แห่งแสงครั้งใหม่ พร้อมมุ่งหน้าสู่ค่ำคืนที่เต็ มไปด้วยความงามที่ยากจะคาดเดา กับเหล่าอัญมณีชั้นเลิศที่ เมซงหยิบมาร้อยเรียงจนเกิดเป็นสุดยอดงานศิลป์ที่ยากจะเลียนแบบ โดยคาแร็กเตอร์หลักของงานดีไซน์ คอลเลคชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากปรากฎการณ์ที่ ชวนหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นภาพแสงไฟสีเหลืองทองจากโคมที่ ลอยละล่องในช่วงเทศกาล, ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ แสงออโรร่าที่พลิ้วไหวพาดผ่านท้องฟ้าได้อย่างสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ หรือแม้แต่การบอกลาด้วยฉากหลังอันน่าจดจำของทะเลดาวที่ระยับระยิบเกลื่อนฟากฟ้า และนี่คือคอลเลคชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูง จาก เพียเจต์ (Piaget) ที่เผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่ระหว่าง Paris Couture Week ภายใต้ชื่อ EXTRAORDINARY LIGHTS เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์ร่วมกันของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้
Chapter 1 - FESTIVE LIGHTS
สัญญาณแห่งการเฉลิมฉลองกำลังเริ่มต้นในอีกไม่ช้า เมื่อแสงแดดที่สร้างความอบอุ่นระหว่างวันค่อย ๆ จางหาย ขณะที่ท้องฟ้ายามเย็นเริ่มนับถอยหลังสู่ห้วงรัตติกาล ก่อนถูกแทนที่ด้วยความสว่างไสวชั่วพริบตาด้วยแสงไฟสีเหลืองทองจากโคมที่ลอยละล่องอย่างอิ สระ เฉกเช่นความรู้สึกอิ่มเอมของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ที่ได้มาแบ่งปันและส่งมอบความสุขในค่ำคืนนี้ และนี่คือช่วงเวลาอันแสนวิเศษ ที่ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นชิ้นงานใหม่ภายใต้ธีม FESTIVE LIGHTS ที่มีไฮไลต์สำคัญ อาทิ
The Blissful Lights Set โมเมนต์ขณะแสงไฟสีเหลืองทองจากโคมค่อย ๆ ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า คือภาพความประทับใจที่เมซงหยิบมาถ่ายทอดลงบนชิ้นงานเซ็ตนี้ โดยเน้นการรังสรรค์ผ่านประกายงามของเพชรสีขาวและสีเหลืองเป็นหลัก
The Blazing Night Set ภาพเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงในโคมไฟสีแดงสไตล์ย้อนยุค ขณะถูกปล่อยขึ้นเหนือท้องฟ้าอันมืดมิด คือแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับเซ็ตนี้
Chapter 2 - MAGICAL LIGHTS
เพลิดเพลินกับการแสดงแสงสีที่น่าทึ่งของธรรมชาติอย่างออโรร่า เมื่อท้องฟ้าถูกจำลองเป็นโรงละครขนาดใหญ่ ขณะที่ม่านแสงที่พลิ้วพาดผ่านท้องฟ้ายามดึกกำลังเปิดฉากขับกล่อมค่ำคืนให้ มีชีวิตชีวาอย่างเงียบๆ และนี่คือผลงานไฮไลต์ในธีมนี้
The Magical Aurora Set ราวกับหยิบเอาปรากฏการณ์แสงเหนือมาใส่ไว้ในเซ็ตนี้ อัญมณีที่นำมาบอกเล่าจึงเป็น 2 สีหลัก อย่าง สีเขียว และ สีขาว เริ่มจากสร้อย โดยไฮไลต์อยู่ที่อัญมณีเม็ดใหญ่ สุดอย่าง มรกตโคลัมเบีย น้ำหนัก 16.84 กะรัต ถูกนำมาจัดเรียงอย่างโดดเด่นกลางตัวเรือน ซึ่งอัญมณีสีเขียวชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าหายากมากตามธรรมชาติ ดังนั้นแหล่งขุดจึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญเพื่อให้นักอัญมณีศาสตร์เข้าถึงมรกตที่ดีที่สุด หนึ่งในนั้นคือโคลัมเบีย ประเทศที่เป็นผู้ส่งออกมรกตส่วนใหญ่ของโลก ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องประกายสีเขียวที่สดใส แต่ถึงอย่างนั้นทักษะอันเชี่ยวชาญกว่า 15 ปีของช่างเจียระไนและช่างฝีมือของเมซงก็มีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากธรรมชาติของมรกตมีรอยแตกร้าวมาก หากไม่ระมัดระวังเป็นพิเศษอาจทำให้ต้องเริ่มสร้างชิ้นงานใหม่ทั้งหมด และเพื่อส่งมอบความงดงามของมรกตให้เด่นชัดที่สุด การเจียระไนแบบ square cut คือคำตอบขณะที่ประกายงามของมรกตที่ประดับบนแหวนและตุ้มหูก็พิเศษต่างกันไปตามแหล่งที่มา และถึงแม้จะใช้เวลาในการตามหามรกตเซ็ตนี้นานหลายปี แต่คุณภาพที่ได้กลับเข้ากันอย่างกลมกลืน ถ่ายทอดม่านแสงที่พลิ้วไหวของออโรร่าได้อย่างสมบูรณ์ แบบ
Dancing Aurora
เรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่นที่ผลิตเพียง 8 เรือน มาพร้อมกลไกที่บางสุดขั้ว (Ultra-thin) พ่วงด้วยฟังก์ชั่นฟลายอิ้งตูร์บิญองที่สลับซับซ้อน โดยเพียเจต์ถือเป็นแบรนด์ที่เลื่องชื่อในแง่การผลิตกลไกที่บางพิเศษมาอย่างยาวนานนับแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 ทั้งยังคงท้าทายขีดจำกัดและนำเสนอแนวคิดนอกกรอบที่ไม่ซ้ำใคร
Magical Aurora - Voluptuous Borealis
นาฬิกาไฮจิวเวลรี่ที่หยิบสีสันอันน่าทึ่งของออโรร่ามาถอดรายละเอียดไว้บนข้อมือได้อย่างครบองค์ประกอบ โดยบ่งบอกสไตล์ของเมซงผ่านการนำเสนอเอกลักษณ์ของอัญมณี ล้ำค่าบนตัวเรือนแบบอสมมาตรได้ อย่างวิจิตรบรรจง อีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนถึงเสรีภาพในการสร้างสรรค์และเปลี่ยนนิยามของนาฬิกาไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งอัญมณีหลักที่ใช้ตกแต่งคือ มรกตทรง
บาแก็ตต์จากแซมเบีย ร้อยเรียงไล่เฉดสี รวมทั้งสิ้น 7 แถว ตัดสลับกับเพชรทรงบาแก็ตต์ และเพชรบริลเลียนต์คัตที่จัดวางตามรูปแบบที่เพียเจต์เชี่ยวชาญ
The Gloaming Illuminations Set
แท้จริงแล้วแสงของออโรร่าไม่ได้มีแต่สีเขียวแต่ความมหัศจรรย์นี้ยั งสามารถเปล่งแสงออกมาเป็นสีลูกกวาด อย่าง ชมพู ม่วง และน้ำเงิน ได้อีกด้วย และนี่คืออีกมุมมองที่เมซงเลื อกมาเป็นกรอบในการสร้างสรรค์ เครื่องประดับในเซ็ตนี้ แม้อัญมณีตระกูลแซฟไฟร์ จะครอบคลุมเกือบทุกเฉดสี แต่ถึงอย่างนั้นแซฟไฟร์ที่ นำมาประดับบนสร้อยจิวเวลรี่ชุด Gloaming Illuminations ทั้ง 27 เม็ด กลับใช้เวลามากกว่า 2 ปี ในการตามหา เพื่อให้ได้ทั้งขนาดเฉดสี และคุณภาพตามที่เมซงต้องการ หนึ่งในนั้นคือ แซฟไฟร์พัดพารัดชา 3 เม็ด ในเฉดสีชมพูอมส้ม ที่จัดเป็นแรร์ไอเท็มขนานแท้ในธรรมชาติ ขณะที่ตุ้มหูมาในดีไซน์ระย้าประดับแซฟไฟร์ 14 เม็ด และแหวนเข้าคู่ประดับแซฟไฟร์สีชมพู น้ำหนัก 6.53 กะรัต
Chapter 3 - INFINITE LIGHTS
เมื่อแสงที่วูบไหวค่อย ๆ จางหายไปหมู่ดาวกลับมาส่องประกายระยิบระยับอีกครั้ง ก่อนที่อีกไม่นานท้องฟ้าจะเปลี่ยนสี ส่งสัญญานแห่งการเริ่มต้นใหม่ ในเช้าวันถัดไป
The Extraordinary Lights Set ชิ้นโดดเด่นแห่งปีต้องยกให้ สร้อยจิวเวลรี่ชุด Extraordinary Lights ผลงานสร้างสรรค์ที่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 450 ชั่วโมงในการผลิต โดดเด่นด้วยเพชรสีเหลืองทรงหมอนในเฉด fancy vivid ที่ผ่านการเจียระไนใหม่ จากเมซงเพื่อให้การเล่นแสงออกมาแบบไร้ที่ติ ทั้งยังได้น้ำหนัก 8.88 กะรัตตามที่ต้องการ ขณะที่ปลายสร้อยอีกด้านตกแต่งด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงลูกแพร์ น้ำหนัก 5.34 กะรัต จากศรีลังกา และ สปิเนลเฉดสีแดงทรงเดียวกัน น้ำหนัก 3.61 กะรัต จากแทนซาเนีย ก่อนนำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันด้วยสเปซาไทต์ และเพชร ออกแบบให้ทั้งสวมใส่สบายและปรับเปลี่ยนได้มากถึง 9 สไตล์ สะท้อนเรื่องราวที่งดงามของแสงในคอนเซ็ปต์ ‘day to night’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยโทนสีอบอุ่นของแสงแดดนำเสนอผ่านเฉดสีเหลือง ส้ม และแดง ขณะที่สีน้ำเงินถูกนำมาสะท้อนถึงความเงียบสงบในช่วงกลางคืน นอกจากนี้แสงอันอบอุ่นในเฉดสีเดียวกับสร้อย ยังถูกนำมาประดับบนตุ้มหู และแหวนด้วยเช่นกัน ซึ่งแท้จริงแล้วนักอัญมณีศาสตร์ เผยว่า เพชรสีเหลืองเม็ดแรกที่หาได้คืออัญมณีที่นำมาประดับบนแหวนหลังจากนั้นอีก 2 ปีถึงสามารถตามหาเพชรที่ เหมาะสมกับทั้งสร้อยและตุ้มหู เข้าชุดเจอ
Celestial Dance Watch
เรือนเวลาที่จำลองความน่าหลงใหลของผืนฟ้ายามค่ำคืน อีกความทรงจำอันแสนประทับใจร่วมกันของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ นำเสนอผ่านเทคนิคมาร์เก็ตทรีอั นไร้ที่ติของศิลปินชื่อดัง โรส ซูนีเยร์ (Rose Saunier) นาฬิกา Celestial Dance ผลิตจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น แต่ละเรือนใช้เวลาในการร้อยเรียงมากกว่า 50 ชั่วโมง โดยศิลปินเลือกใช้วัสดุที่น่าเหลือเชื่ออย่างฟางข้าวย้อมเฉดสีน้ำเงิน, หนังลูกวัว, กระดาษพาร์ชเมนต์, ปีกแข็งของแมลง และ ไม้ฮอร์นบีม มาสร้างสรรค์บนพื้นหน้าปัด โดยตัดแต่งให้เป็นชิ้นขนาดจิ๋วจำนวนมาก ก่อนประกอบเข้าด้วยกันอย่างวิจิตรบรรจงตามแพทเทิร์นที่ ออกแบบไว้โอบล้อมขอบตัวเรือนด้วยเพชรทรงบาแก็ตต์และเพชรบริลเลียนต์คัต มาพร้อมดีไซน์หน้าปัดแบบเยื้องศูนย์กลางและขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานด้วยมือแบบบางพิเศษ 670P พร้อมจักรกลตูร์บิญอง
ทั้ง 3 ธีมคอลเลคชั่นภายใต้ EXTRAORDINARY LIGHTS นี้ เป็นเครื่องสะท้อนถึงความทะเยอทะยาน แนวคิดนอกกรอบ ที่หลอมรวมเข้ากับทักษะอันเชี่ยวชาญของเมซงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์แต่ละชิ้นจึงสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจและสร้างความประทับใจแก่ผู้สวมใส่ได้อย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678
19 ธ.ค. 2567
20 ธ.ค. 2567