VACHERON CONSTANTIN - Les Cabinotiers Récits de Voyages

Vacheron Constantin (วาเชอรอง คองสตองแตง) เผยความงามสุดวิจิตรด้วยเทคนิคเชิงศิลป์ชั้นสูงที่ผสานกับกลไกจักรกลสุดซับซ้อนในคอลเลกชั่น Les Cabinotiers – Récits de Voyages (เลส คาบิโนทิเยร์ส - เรซิตส์ เดอ โวยาจ) ผลงานที่สะท้อนถึงการออกเดินทางเพื่อนค้นพบโลกและความมหัศจรรย์ของโลกด้วยจิตวิญญาณที่เปิดกว้าง อันเป็นลักษณะเฉพาะของ Vacheron Constantin มาตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 268 ปีก่อน โดยมีจุดหมายปลายทางต่างๆ จากปลายยุโรปที่นำมาสู่ฝรั่งเศสที่ซึ่งเมซงได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วง 1820

Les Cabinotiers Armillary Tourbillon – Tribute to Art Deco Style

เครื่องบอกเวลาสุดพิเศษตัวแทนของอเมริกาภายใต้คอลเลกชัน Les Cabinotiers Récits de Voyages สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณในการเปิดสู่โลกกว้างของ Vacheron Constantin นับตั้งแต่แรกอรุณแห่งศตวรรษที่ 19 นาฬิกา Les Cabinotiers Armillary Tourbillon – Tribute to Art Deco Style (เลส คาบิโนทิเยร์ส อาร์มิลแลรี ทูร์บิญอง - ทริบิวต์ ทู อาร์ต เดโค) วิจิตรงดงามและโดดเด่นด้านเทคนิคเชิงศิลป์ชั้นสูงสูงนี้ผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียวเท่านั้น โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 45 มม. และประทับด้วยตราสัญลักษณ์อันทรงเกียรติ Hallmark of Geneva จากการขับเคลื่อนของกลไกคาลิเบอร์ 1990 ซึ่งเป็นกลไกผลิตภายในโรงงานด้วยคุณภาพอันโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแบบเปิด สำหรับการรังสรรค์งานตกแต่ง งานแกะสลัก และงานแกะลายกิโยเช่ ผ่านเทคนิคการแกะสลักมากมายที่น่ามาใช้ในเรือนเวลานี้ ทั้งบนส่วนตัวเรือนกลางและหูตัวเรือน ร่วมไปกับชิ้นส่วนกลไกต่างๆ อย่าง แท่นเครื่อง และสะพานจักร ที่ได้รับการสลักรูปแบบนูนต่ำอย่างประณีตละเอียดอ่อน เช่นเดียวกับการสลักและดุนลายแบบกิโยเช่ ตลอดจนการขัดขอบกลมมนด้วยมือ ลวดลายเหล่านี้ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์ อาร์ต เดโค ซึ่งชวนให้หวนนึกถึงการตกแต่งบนตึกระฟ้าของมหานครนิวยอร์กที่สร้างขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้นศตวรรษที่ 20 ขณะที่กลไกจักรกลไขลานด้วยมือคาลิเบอร์ 1990 กลไกที่เป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของนาฬิกาที่ผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียวในโลกอย่าง Reference 57260 นาฬิกาพกรุ่นฉลองครบรอบ 260 ปีของแบรนด์เมื่อปี 2015 ด้วยความซับซ้อนสูงสุดที่ 57 ฟังก์ชั่นการทำงาน ที่ยังคงนับเป็น นาฬิกาสลับซับซ้อนสูงสุดของโลกจวบจนถึงปัจจุบัน เพื่อแสดงเวลาชั่วโมงและนาที โดยวิธีการของการใช้เข็มชี้แบบตีกลับของรูปแบบการแสดงแบบไบเรโทรเกรด และการแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็กบนทูร์บิญองแอร์มิลแลรีแกนคู่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Vacheron Constantin ได้ถ่ายทอดงานแกะสลักรูปไว้บนกลไกชุดนี้

Les Cabinotiers Malte Tourbillon- Tribute to Haussmannian style

ในฐานะส่วนหนึ่งของคอลเลกชันใหม่ Les Cabinotiers Récits de Voyages (เลส คาบิโนทิเยร์ส - เรตส์ เดอ โวยาจ) ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของการเปิดสู่โลกกว้าง เมซงแห่งนี้ได้นําเสนอผลงานที่ผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียวในรุ่น Les Cabinotiers Malte Tourbillon- Tribute to Haussmannian style (เลส คาบิโนทิเยร์ส มอลต์ ทูร์บิญอง - ทริบิวต์ ทู โอสมานเนียน สไตล์) ที่ได้แรงบันดาลใจจากโครงการก่อสร้างหลักในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่มอบซึ่งการปรากฏโฉมแห่งเมืองหลวงของฝรั่งเศสเช่น ในปัจจุบัน

Les Cabinotiers Malte Tourbillon- Tribute to Haussmannian style เผยความงามสง่าในตัวเรือนทรงทรงตอนโนสุดคลาสสิก รังสรรค์จากพิงก์โกลด์ 18 กะรัต ประทับไว้ด้วยตราสัญลักษณ์อันทรงเกียรติ Hallmark of Geneva ขับเคลื่อนของกลไกบางพิเศษผลิตภายในโรงงาน คาลิเบอร์ 2790 SQพร้อมกลไกทูร์บิญองสุดซับซ้อน และการแสดงวันที่ รวมถึงมาตรวัดพลังงานสำรอง ทั้งตัวเรือนและกลไกผ่านการแกะสลักอย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่ขอบบนฝาหลังและข้อต่อตัวเรือนตกแต่งแบบโค้งนูน ผสมผสานด้วยตัวเรือนชิ้นกลางสลักเสลาอย่างประณีตด้วยสัญลักษณ์รูปหัวสิงโตและลวดลายสลักแท่นเครื่องและสะพานจักรของกลไกตกแต่งแบบสเกเลตันทั้งหมดและยังประดับด้วยลวดลายต่าง ๆ ที่ชวนให้นึกถึงโครงสร้างของหอไอเฟิล ความซับซ้อนทันสมัยทางเทคนิคของนาฬิการุ่นนี้จึงโดดเด่นด้วยรูปแบบและความเชี่ยวชาญในงานประดับตกแต่งด้วยมืออันวิจิตรบรรจง

ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือคาลิเบอร์ 1990 กลไกที่เป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของนาฬิกาที่ผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียวในโลกอย่าง Reference 57260 นาฬิกาพกรุ่นฉลองครบรอบ 260 ปีของแบรนด์เมื่อปี 2015 ด้วยความซับซ้อนสูงสุดที่ 57 ฟังก์ชั่นการทำงาน ที่ยังคงนับเป็น นาฬิกาสลับซับซ้อนสูงสุดของโลกจวบจนถึงปัจจุบัน เพื่อแสดงเวลาชั่วโมงและนาที โดยวิธีการของการใช้เข็มชี้แบบตีกลับของรูปแบบการแสดงแบบไบเรโทรเกรด และการแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็กบนทูร์บิญองแอร์มิลแลรีแกนคู่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Vacheron Constantin ได้ถ่ายทอดงานแกะสลักรูปไว้บนกลไกชุดนี้

Les Cabinotiers – Memorable Places Far East and Geneva

เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของ Récits de Voyages (เรตส์ เดอ โวยาจ) ในยุโรปและเอเชีย Vacheron Constantin ได้นำเสนอเรือนเวลา Les Cabinotiers – Memorable Places (เลส คาบิโนทิเยร์ส - เมมยเรเบิล เพลชส) ในสี่รุ่น แต่ละรุ่นผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียว พร้อมประทับไว้ด้วยตราสัญลักษณ์อันทรงเกียรติ Hallmark of Geneva และอุทิศเกียรติแก่จิตวิญญาณของเมซงในการเปิดสู่โลกกว้าง

เพื่อสร้างสรรค์หน้าปัดต่าง ๆ ของเรือนเวลาเหล่านี้ ซึ่งถ่ายทอดภาพสถานที่ของทั้งนครธม อดีตพระราชวังฤดูร้อนเดิมแห่งราชวงศ์จีน วัดขงจื้อในกรุงปักกิ่ง และ Tour de l'Île (ทูร์ เดอ วิลล์) สํานักงานใหญ่ในเจนีวาของเมซงตลอดช่วงศตวรรษที่ 19

โดยช่างแกะสลักระดับมาสเตอร์ของโรงงานการผลิตได้ดึงแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดต่าง ๆ นับย้อนกลับไปใน ศตวรรษที่ 19 ณ ช่วงเวลาที่ วาเซอรอง คองสตองแตง ได้ติดต่อทําการค้าเป็นครั้งแรก ๆ กับจีน โดยหน้าปัดเสมือนจริงอันโดดเด่นนี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยการใช้เทคนิคซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนใน Vacheron Constantin ที่ประกอบด้วยการสลักรูปขนาดจิ๋ว และการแกะสลักบนแผ่นบาง ๆ มากของเยลโลว์โกลด์ พิงก์โกลด์ และไวท์โกลด์ จํานวน 6-9 แผ่น ซึ่งวัดความหนาได้น้อยกว่ามิลลิเมตร จากนั้นองค์ประกอบของหน้าปัดเหล่านี้จึงถูกนํามาประกอบและบรรจบกันโดยการเล่นกับเฉดสีต่างๆ ของทองเพื่อสร้างรูปของภาพจําลอง หรือแม้แต่การวางซ้อนกันเพื่อเน้นย้ำถึงความตื้นลึกและมิติของภาพ และสร้างองค์ประกอบที่ดูเหมือนจริงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคคร่ำทองเพื่อสร้างสรรค์ฉากของต้นไม้ได้อย่างเหมือนจริง นาฬิกาตัวเรือนพิงก์โกลด์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. เหล่านี้ขับเคลื่อนโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 1120 ที่ เป็นกลไกระดับตำนานของ Vacheron Constantin และถูกเลือกใช้ด้วยเพราะมีความเป็นกลไกบางพิเศษ ด้วยความหนาเพียง 2.45 มม. แต่ยังคงไว้ด้วยโครงสร้างอันเป็นประโยชน์และทรงประสิทธิภาพ

Les Cabinotiers Grisaille High Jewellery – Dragon

Vacheron Constantin เพิ่มสมาชิกความพิเศษสุดอัศจรรย์สำหรับมหากาพย์การเดินทางนี้ในผลงานรุ่น Les Cabinotiers Grisaille High Jewellery – Dragon (เลส คาบิโนทิเยร์ส กรีแชลล์ ไฮ จิวเวลรี - ดรากอน) ได้อุทิศให้กับจีน ประเทศซึ่งทําการค้ากับ Vacheron Constantin มาอย่างยาวนานนับย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1845 โดยบนหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ถ่ายทอดภาพของมังกรห้าเล็บและไข่มุก ที่ศิลปินช่างระดับมาสเตอร์ของ Vacheron Constantin ได้สร้างสรรค์ลวดลายด้วยงานลงยา grisaille (กรีแซลล์) สีเขียวที่นับเป็นครั้งแรกของโรงงานการผลิต กับอีกหนึ่งครั้งแรกเช่นกันคือการประดับเพชรของรุ่นเข้ากับหน้าปัดลงยา grisaille ส่วนตัวเรือนของนาฬิกายังประดับด้วยเพชรบาแกตต์คัต 146 เม็ด ทั้งบนขอบตัวเรือน ตัวเรือนชิ้นกลาง และข้อต่อตัวเรือน ขณะที่เพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรนํามาประดับตกแต่งไว้บนเม็ดมะยม นาฬิกาที่ได้รับประกาศนียบัตร Hallmark of Geneva ขับเคลื่อนโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 1120 ซึ่งเป็นกลไกระดับต่านานที่มีความ โดดเด่นจากความบางอย่างมากเพียง 2.45 มม. รวมถึงโครงสร้างแห่งสุนทรียะความสวยงามอันน่า พึงพอใจ โดยบรรจุภายในตัวเรือนไวท์โกลด์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. และหนา 8.9 มม. จับคู่กับสายหนังจระเข้สีเขียวเข้มและหัวเข็มขัดแบบหมุดไวท์โกลด์ประดับอัญมณี

Les Cabinotiers Minute Repeater Tourbillon – Tribute to Arabesque
& Art Deco Style

นาฬิกาผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียวในสองรุ่นของ Les Cabinotiers Minute Repeater Tourbillon – Tribute to Arabesque และ Tribute to Art Deco Style  (เลส คาบิโนทิเยร์ส มินิท รีพีทเตอร์ ทูร์บิญอง - ทริบิวต์ ทู ฮาระเบสก์ แอนด์ อาร์ต เดโค สไตล์) ได้ร่วมเฉลิมฉลองจิตวิญญาณอันเปิดสู่โลกกว้างของ Vacheron Constantin ภายในคอลเลกชันใหม่ของเมซงอย่าง Récits de Voyages โดยผลงานทั้งสองรุ่นประทับไว้ด้วยตราอันทรงเกียรติ Hallmark of Geneva และขับเคลื่อนโดยกลไก คาลิเบอร์ 2755 TMRผลิตภายในโรงงาน พร้อมด้วยทูร์บิญอง และกลไกมินิท รีพีทเตอร์ ถ่ายทอดคุณสมบัติของการแสดงพลังงานสํารองที่มองเห็นได้ผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ กลไกนี้ได้รับประโยชน์จาก การพัฒนาที่สร้างสรรค์ขึ้นสําหรับ Tour de l'Île เรือนเวลาสลับซับซ้อนพิเศษที่ร่วมเฉลิมฉลอง ครบรอบ 250 ปีของเมซง

และเพื่อมอบเกียรติแก่ความเชื่อมโยงที่ผนึกความสัมพันธ์กับตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกาในต้นศตวรรษที่ 19 เช่นเดียวกับวัฒนธรรมเชิงศิลปะอันเป็นที่เคารพยกย่อง เมซงได้สร้างสรรค์การตกแต่งด้วยลวดลายอาระเบสก์สําหรับรุ่นแรก โดยมอบความไว้วางใจให้กับ ช่างแกะสลักระดับมาสเตอร์ และการตกแต่งสไตล์อาร์ต เดโค ส่วนในรุ่นหลังเป็นการใช้เทคนิค การประดับฝังมุกไม้ที่เติมเต็มความงดงามด้วยการประดับอัญมณีและการแกะสลัก ลวดลายการตกแต่งที่ปรากฏบนมัสยิดหลวงเชคชัยยึดในอาบูดาบี และสถาปัตยกรรมของอาคารไครส์เลอร์ในนิวยอร์กได้ทําหน้าที่เป็นดั่งแรงบันดาลใจสําหรับเรือนเวลาทองขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. อันแสนพิเศษทั้งสองรุ่นเหล่านี้