คุณคม สัจจวโรดม

Orient อีกหนึ่งแบรนด์เรือนเวลาคุณภาพจากแดนอาทิตย์อุทัยที่เป็นที่รู้จักในหมู่คนรักนาฬิกาชาวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์และคุณภาพที่มาพร้อมกับราคาที่เป็นมิตรกับลูกค้าทุกกลุ่ม ทำให้ Orient กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาแบรนด์แรกๆ ของใครหลายคนที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา หรือกำลังมองหานาฬิกาดีๆ สักเรือนมาสวมใส่ เนื่องในวาระครบรอบของนาฬิกาดีไซน์ดำน้ำ Orient Diver Design ทางแบรนด์ได้รังสรรค์เรือนเวลารุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน และได้ร่วมกับบริษัท สหกรุงทอง จำกัด จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โดยเป็นการจัดงานครั้งแรกในรอบ 6 ปี ในโอกาสนี้เราได้พูดคุยกับคุณคม สัจจวโรดม ผู้จัดการแบรนด์ Orient แห่งประเทศไทย ที่ได้ให้เกียรติพูดถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นาฬิกาใหม่ พร้อมทิศทางการนำเสนอแบรนด์ Orient ในอนาคตอันใกล้นี้

ครั้งนี้คือการจัดงานเปิดตัวนาฬิกา Orient ครั้งแรกในรอบ 6 ปี อยากทราบว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาแบรนด์ Orient ถือว่าห่างหายจากตลาดไทยเลยหรือไม่ มีการทำการตลาดอย่างไร?
ที่ผ่านมา Orient เองมีการทำกิจกรรมทางการตลาดมาโดยตลอดเพียงแค่ไม่ได้จัดในรูปแบบของงานเปิดตัวอย่างครั้งนี้ครับ ที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่เราจะเน้นไปที่การสื่อสารข้อมูลของนาฬิการุ่นใหม่ๆ ผ่านสื่อทั้งในส่วนที่เป็นสิ่งพิมพ์และดิจิทัล รวมถึงการสร้างกลุ่มแฟนคลับร่วมกับทางเพจ Orient Mania Thailand เพื่อเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ของผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์ Orient โดยเฉพาะให้เกิดความไว้วางใจที่มีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้นและเกิดเป็นชุมชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนเพื่อต่อยอดไปยังกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าที่แบรนด์จะมีอายุครบ 75 ปีครับ

อยากทราบถึงความเป็นมาของนาฬิกา Orient Diver Design สักเล็กน้อย?
นาฬิกา Orient Diver Design เป็นหนึ่งในคอลเลกชันหลักของแบรนด์มาโดยตลอดตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับปรุงในรายละเอียดต่างๆ เรื่อยมาโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องที่มีการพัฒนาให้ทันสมัยและมีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น และนอกจากในแง่มุมด้านเทคนิคแล้วในส่วนของดีไซน์ก็ได้รับการเพิ่มสีสัน รูปแบบและขนาดของตัวเรือนที่จะเป็นทางเลือกเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของแต่ละท่านอีกด้วยครับ

นาฬิกา Orient Diver Design รุ่นครบรอบ 20 ปี ทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร เหมาะกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนอย่างไร?
แน่นอนว่านาฬิกาในรูปแบบดีไซน์ดำน้ำเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในโอกาสที่คอลเลกชันนี้ครบรอบ 20 ปีในปี 2024 ทางแบรนด์มีความตั้งใจที่จะฉลองวาระนี้ด้วยการนำเสนอรุ่นพิเศษที่เป็นลิมิเต็ดเอดิชันเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการเดินทางที่ผ่านมาโดยจะมีความแตกต่างไปจากเดิมด้วยการเปิดตัวทั้งเวอร์ชันที่เป็นกลไกอัตโนมัติและกลไกโซล่าพาวเวอร์โครโนกราฟ ซึ่งนาฬิกาทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันที่หยิบเอาเรื่องราวความสวยงามของมหาสมุทรที่รายล้อมอยู่รอบๆ ประเทศญี่ปุ่นมาเป็นแกนโดยจุดเด่นจะอยู่ที่การเลือกเฉดสีน้ำเงินที่สวยงาม สะดุดตามาเป็นสีหลักในการดีไซน์รวมถึงการเพิ่มรายละเอียดที่มากยิ่งขึ้นอย่างการไล่เฉดจากอ่อนไปเข้มบนหน้าปัดเพื่อเป็นตัวแทนความลึกของมหาสมุทรและการพิมพ์กราฟิกลายเส้นซ้อนทับอยู่เลเยอร์บนอีกหนึ่งชั้นเพื่อสื่อถึงภาพของเกลียวคลื่น พร้อมด้วยการชุบสีดำรอบขอบตัวเรือนและปุ่มกดจับเวลาทำให้นาฬิกามีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น นาฬิกาทั้งสองรุ่นถูกสร้างขึ้นตามแนวทางเดิมของนาฬิการุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2004 เพื่อแฟนคลับของ Orient Diver Design ที่ต้องการมีเรือนเวลารุ่นพิเศษนี้สะสมไว้เป็นที่ระลึกรวมถึงผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาแนวสปอร์ตอีกด้วยครับ

อยากทราบถึงแนวทางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ Orient ในอนาคตอันใกล้นี้?
ทาง Orient เองยังคงมุ่งเน้นในการออกแบบและผลิตนาฬิกาภายใต้แนวทางหลักที่เคยเป็นมาครับ คือการเป็นนาฬิกาคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้โดยเฉพาะจุดเด่นในด้านความสามารถที่ผลิตกลไกได้ด้วยตัวเอง นาฬิกาทุกเรือนจะใช้กลไกอินเฮาส์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเรื่องรูปแบบของสินค้าก็เช่นกัน เราจะเห็นว่านาฬิกา Orient ในปัจจุบันจะมีคอลเลกชันที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ ขนาดและสีสันรวมถึงฟังก์ชัน โดยเฉพาะการเปิดตัวของเครื่องโซล่าพาวเวอร์ที่จะเข้ามาเป็นกลุ่มสินค้าแกนหลักใหม่ที่ทางแบรนด์จะให้ความสำคัญหลังจากนี้ โดยทางแบรนด์เล็งเห็นถึงในเรื่องความยั่งยืนและการลดมลพิษ โดยข้อดีของการเลือกใช้เครื่องระบบโซล่าจะเข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้ด้วย ในเรื่องของอายุการใช้งานกลไกระบบโซล่าพาวเวอร์มีอายุที่ยาวนานกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับเครื่องควอตซ์โดยทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ สองถึงสามปี ซึ่งนอกเหนือไปจากเครื่องที่มาพร้อมกับฟังก์ชันโครโนกราฟแบบที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน อนาคตก็จะมีการนำเสนอกลไกระบบโซล่าสำหรับนาฬิกาบอกเวลาสามเข็มด้วย เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการทำการตลาดนั้นทางบริษัทมีแผนในการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัยมากขึ้นโดยใช้รูปแบบของการผสมผสานผลิตภัณฑ์เข้ากับไลฟ์สไตล์และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของแบรนด์อันมีต่อกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มครับ

คุณคมมองว่าสถานการณ์ตลาดนาฬิกาในบ้านเราปัจจุบันเป็นอย่างไร มีผลกระทบกับแบรนด์ Orient ด้วยหรือไม่อย่างไร?
ด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจในช่วงสามไตรมาสแรกของปีย่อมมีผลกระทบในภาพรวมอยู่แล้ว เพียงแต่ผลกระทบมากหรือน้อยคงขึ้นอยู่กับฐานลูกค้าและเซ็กเมนท์ของแต่ละแบรนด์ด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านเทรนด์ของตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งในส่วนของแบรนด์ Orient เองยังถือว่าเรารักษาระดับได้เทียบเท่ากับปี 2023 ที่ผ่านมาโดยที่ทางบริษัทคาดหวังการกระตุ้นจากทางภาครัฐเพื่อเร่งการใช้จ่ายให้มากขึ้นในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงครับ

ทราบว่าคุณคมเองเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในนาฬิกา Orient มาก่อนที่จะได้มาดูแลแบรนด์ อยากทราบว่าในมุมมองของคุณคม คิดว่าแบรนด์ Orient มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน?
จากมุมมองของคนที่ได้รับโอกาสเข้ามาดูแลแบรนด์ผมคิดว่า Orient มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเข้ามาเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาภายใต้บริษัท Epson ที่มีทั้งประสบการณ์ เทคโนโลยีและทีมงานที่มีทักษะสูง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลกับผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเป็นอย่างมาก สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือการปรับปรุงชุดกลไกจากเครื่องรุ่นดั้งเดิมอย่าง Caliber 46 ที่เริ่มใช้ในปี 1971 มาเป็นเครื่องในรหัส F6 ที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นและนอกเหนือไปจากด้านเทคนิคแล้วการเข้ามาวางกลยุทธ์สินค้าของ Epson ยังทำให้แนวทางของแบรนด์มีความชัดเจนกว่าเดิมอีกด้วย และโดยส่วนตัวแล้วชอบคำถามข้อนี้มากครับ ทำให้นึกได้ว่าก่อนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลด้านการขายเราก็เคยเป็นลูกค้าของ Orient มาก่อน เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจซื้อในวันนั้นเป็นเรื่องของดีไซน์และความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงคุณภาพ ที่สำคัญ Orient เรือนนั้นเป็นนาฬิการะบบออโตเมติกเรือนแรกที่ได้เป็นเจ้าของ และผมมั่นใจว่า Orient คงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับหลายๆ คนที่กำลังมองหานาฬิกาเรือนแรกหรือคนที่เริ่มสะสมนาฬิกาได้เช่นเดียวกันครับ