Last updated: 26 ธ.ค. 2567 | 134 จำนวนผู้เข้าชม |
เป็นเวลากว่า 11 ปีที่ Jean-Christophe Babin ดูแลแบรนด์ Bulgari ในฐานะ CEO พร้อมกับความสำเร็จของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะในด้านเครื่องประดับที่ Bulgari นั้นมีความทรงพลังจากความเชี่ยวชาญที่สืบทอดมายาวนานเท่านั้น แต่ยังทำให้เครื่องบอกเวลาของ Bulgari ยกระดับความเหนือชั้นด้วยนวัตกรรมกลไกอันยอดเยี่ยม ด้วยตำแหน่งที่สุดในโลกจากความบางเฉียบของนาฬิกาในตระกูล Octo Finissimo และคว้ารางวัลมากมายจาก GPHG ที่เปรียบเสมือนรางวัลออสการ์ของโลกแห่งเวลา ในงาน Geneva Watch Days 2024 หรือ GWD ที่ผ่านมา Bulgari มีผลงานนวัตกรรมใหม่ที่สุดอัศจรรย์อีกครั้งในธีม The Sound of Bulgari ที่ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์เปิดใจให้สัมภาษณ์พร้อมกับผลงานใหม่ละลานตา
การนำเสนอผลงานในธีม The Sound of Bulgari ปีนี้ที่งาน GWD มีแนวคิดอย่างไร?
Bulgari เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลไกตีบอกเวลาหรือ Chime watches ซึ่งอาจจะมีประมาณ 10 แบรนด์ในสวิตเซอร์แลนด์ที่สามารถสร้างสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงที่ซับซ้อนได้ เพราะเป็นกลไกที่ทำได้ยาก แม้จะมีการพัฒนากลไกนี้มานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แล้วก็ตาม ดังนั้น เราจึงได้เพิ่มผลงานนาฬิกาที่บอกเวลาด้วยเสียงนี้ในคอลเลกชันของเรามากว่าทศวรรษแล้ว แต่ในขณะที่หลายแบรนด์นั้นก็รังสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงในท่วงทำนองที่คุ้นเคยเดิมๆ เช่น Westminster หรือเสียงของนาฬิกาที่หอนาฬิกา Big Ben ในอังกฤษตลอดระยะเวลา 2 ศตวรรษที่ผ่านมา นาฬิกาแต่ละเรือนและทุกเรือนที่มีกลไกตีบอกเวลาจะให้เสียงในท่วงทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างยิ่ง ไม่มีใครคิดถึงนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะท่วงทำนองตีบอกเวลาของ Big Ben นั้นมาจากโบสถ์ จึงมีทำนองที่กลมกลืน เรียบง่ายและมีความสม่ำเสมอ
เราในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการสร้างสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาด้วยเสียงระดับโลก เราต้องการท่วงทำนองที่แตกต่าง เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่แก่นแท้ของท่วงทำนองตีบอกเวลาด้วยเสียงจะเหมือนกันทุกคน เรามีโอกาสทำงานร่วมกับวาทยกรรุ่นใหม่ Lorenzo Viotti ซูเปอร์สตาร์ของวงการออเคสตร้าที่มีอายุเพียง 30 กว่าปี เขาเป็นวาทยกรจากเมืองโลซานน์ ผู้ซึ่งได้กำกับและควบคุมการบรรเลงของวงดนตรีอันยิ่งใหญ่ อย่าง Netherlands Philharmonic Orchestra, Netherlands Chamber Orchestra และวงโอเปร่าแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ เราทำงานร่วมกับ Lorenzo ตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน จากครั้งแรกกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และเข้าร่วมกับการสร้างสรรค์นาฬิกาในเวลาต่อมา เราเริ่มต้นการประชุมจากความคิดเห็นเกี่ยวกับโทนเสียงของระบบตีบอกเวลาว่า เหตุใดต้องเป็น Westminster ตอนนั้นเรายังไม่เจอคำตอบ และ Lorenzo ก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมไม่เป็นโทนอื่นล่ะ? มันคงวิเศษมากถ้ามีทำนองที่แตกต่างออกไปจากคนอื่นๆ แต่เราก็ไม่ต้องการโทนดนตรีที่ทันสมัยของ Westminster เราต้องการแนวคิดที่แตกต่าง และเขาก็กลับมาพร้อมกับไอเดียของ ‘ไตรโทน’ (tritone) ซึ่งเป็นช่วงห่างของโทนเสียงอันมีเอกลักษณ์เฉพาะที่สร้างพลวัตอย่างมาก เป็นท่วงทำนองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เราเริ่มจากแนวคิดเกี่ยวกับไตรโทนที่อสมมาตร สู่การพัฒนาชุดค้อน 4 ชิ้นใหม่ทั้งหมด เพราะเราไม่สามารถใช้ค้อนแบบคลาสสิกได้ นี่จึงเป็นการคิดค้นพัฒนานาฬิกาตีบอกเวลาครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของ Bulgari และเป็นที่มาของนาฬิกา Octo Roma Grande Sonnerie ที่ตีบอกเวลา 4 โน้ตเสียงที่อาจไม่คุ้นเคยจากค้อน 4 ชิ้น แต่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงไตรโทนที่ไม่เข้ากันจึงเป็นเหมือนการเตือนโดยธรรมชาติในนาฬิกาที่บอกเวลาผ่านการได้ยินเสียง
การเพิ่มจำนวนชุดค้อนจาก 2 ชิ้นเป็น 4 ชิ้น ทำให้นาฬิกาหนาขึ้นกว่ารุ่นก่อนหรือไม่?
ถ้าดูจากขนาดตัวเรือนที่ 45 มิลลิเมตรซึ่งค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าดูภาพรวมแล้วจะเห็นว่ามีความบาง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตัวเรือนและความหนาจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก หากเรายังคงใช้ตัวเรือนที่ 42 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามันจะทำให้ดูหนากว่านี้ เราจึงเลือกที่จะใช้ขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตรที่ทำให้ดูบางกว่า นั่นเป็นความสัมพันธ์ที่เรามักคิดถึงเสมอในระหว่างการออกแบบเกี่ยวกับความหนาและความกว้างของตัวเรือน เราจะค่อยๆ ปรับจนกระทั่งได้ความสวยงามที่สมบูรณ์แบบ หากเรารู้ว่ากลไกที่เราใช้มีความซับซ้อนมาก เราจะเลือกใช้ตัวเรือนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างขึ้นเพื่อควบคุมความหนาของตัวเรือน ซึ่งสองส่วนนี้ต้องมีความสมดุลกันเสมอ เพื่อให้เกิดความรับรู้ด้านสุนทรียภาพที่สวยงามที่สุด
นอกจากคอลเลกชัน Octo ที่มาพร้อมความซับซ้อนสูงจากนวัตกรรมกลไกแห่งเสียงใหม่แล้ว คุณยังมีสไตล์ความหรูในธีมเสียงอีกใช่ไหม?
เรายังมีผลงาน Serpenti Pallini High Jewelllery ซึ่งเป็นผลงานปฏิวัติล่าสุดจากคอลเลกชัน Serpenti ระดับไอคอน เป็นนาฬิกาประดับอัญมณีและซีเคร็ตวอทช์ เมื่อปากของงูปิดก็จะเผยความงามของกำไลแห่งอัญมณีที่ล้ำค่า โครงสร้างของ Serpenti Pallini มีความน่าสนใจอย่างยิ่งจากลูกปัดทองคำขนาดเล็กที่เรียงร้อยประกอบเข้าด้วยกัน ลูกปัดเหล่านี้ทำให้สามารถสร้างดีไซน์ที่หลากหลาย เช่นการผสานรวมกับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรในลวดลายของเกล็ดที่วางทีละเม็ดบนสายทองถักทอด้วยเทคนิคที่มาจากวิธี en tremblant (ออง ทรอมบลองท์) เทคนิคเก่าแก่ที่พัฒนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ในปารีส และเราก็ยังอาจนำมาผสานกับมรกตหรือทับทิมได้ หากลูกค้าต้องการอีกด้วย นอกจากนี้ในส่วนหัวของนาฬิกาก็ยังคงมาพร้อมกลไกไขลาน Piccolissimo ที่เป็นกลไกจักรกลเล็กที่สุดในตลาดเวลานี้ ที่มีน้ำหนักเพียง 1.3 กรัม และสามารถดึงออกมาจากตัวเรือนได้หากต้องการส่งซ่อม คุณไม่ต้องส่งไปทั้งเรือน แต่สามารถถอดเพียงกลไกส่งซ่อมหากมีปัญหา มันดูปลอดภัยและสบายใจกว่าถ้าต้องส่งไปทั้งเรือนสำหรับลูกค้าบางคน ซึ่งกลไกเองก็มีความพิเศษและมีขนาดเล็ก
จึงมีมูลค่าที่ไม่น้อยเช่นกัน
แล้วนาฬิกา Serpenti Pallini High Jewelllery เข้ากับธีม Sound of Bulgari อย่างไร?
เพราะลูกปัดทองคำที่ปลายหางเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวก็จะมีเสียงเบาๆ อันที่จริงมันเป็นเพียงแนวคิด ไม่ใช่การสร้างเสียงเหมือนระบบตีบอกเวลา แต่เป็นแนวคิดที่สามารถเล่นกันนาฬิกาได้ด้วยเสียงเบาๆ เท่านั้น
เราเห็นความร่วมมือมากมายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ระหว่าง Bulgari กับศิลปินต่างๆ คุณมีแนวคิดอย่างไรในการทำงานร่วมกับศิลปินเหล่านี้?
Bulgari เป็นแบรนด์ที่เริ่มต้นมาสำหรับผู้หญิง และเราก็มีความใกล้ชิดกับศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมาย เราจึงเป็นเสมือนผู้อุปถัมภ์งานศิลปะที่มีงบประมาณสำหรับการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมสำคัญ การบูรณะโบราณสถานและบริจาคให้กับศิลปะต่างๆ มากที่สุด เช่น นิทรรศการผลงานชิ้นเอกจากคอลเลกชัน Torlonia พิพิธภัณฑ์ Louvre ในกรุงปารีส Bulgari คือผู้สนับสนุนมูลนิธิ Torlonia Foundation สำหรับงานนี้ 100% ในการบูรณะรูปปั้นสำคัญในประวัติศาสตร์ หรือเรายังมีรางวัล Maxi Bulgari Prize ที่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มอบรางวัลให้กับศิลปะดิจิทัลที่เกิดจากปัญญประดิษฐ์ เรามีความกระตือรืนร้นอย่างมากต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะ และแน่นอนกิจกรรมเหล่านี้ก็เป็นเสมือนการก่อร่างสร้างฐานของมูลนิธิ Bulgari Foundation ที่เกี่ยวเนื่องกับผลงานรุ่นผลิตจำนวนจำกัดของเราด้วย ในปีนี้เรายังได้สร้างสรรค์ผลงานซีรีส์พิเศษร่วมกับ Tadao Ando ในผลงาน 4 ฤดู กับคอลเลกชัน Serpentis โดยเลือกหินหรือวัสดุธรรมชาติที่เข้ากับสีสันของฤดูกาล ซึ่งจะไล่เฉดสีจากใบไม้สีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีฟ้าเยือกเย็นและสีชมพูอ่อนหวาน
เรายังฉลองครบรอบ 140 ปีของแบรนด์ด้วยผลงานรุ่นพิเศษที่เป็นความร่วมมือกับ Fender Custom Shop ในรุ่น Bulgari Aluminium GMT x Fender® Limited Edition ซึ่งความร่วมมือนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีกีตาร์ไฟฟ้าระดับตำนาน Stratocaster อีกด้วย ตัวอย่างที่เรานำเสนอในปีนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกับภาคศิลปะที่ Bulgari ยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญเสมอ
เมื่อธีมปีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเสียงและดนตรี อยากทราบว่าคุณชอบดนตรีแนวไหนโดยส่วนตัว เพลงของลิซ่าใช่ไหม?
ใช่ ก็อาจดูแปลก เพราะโดยส่วนตัวผมอาจไม่ใช่แนวดนตรีคลาสสิก แต่ชื่นชอบดนตรีโอเปร่ามาก ผมยังชอบดนตรีร็อคและดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับ Fender และผมก็ยังชอบเคป๊อปด้วย!
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567