FELIPPE PANTONE

จากผลงานการสร้างสรรค์งานศิลปะอันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิตี้บนท้องถนนไปจนถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังและงานอินสตอเลชันอาร์ทในสถานที่สำคัญทั่วโลก ทำให้ Felippe Pantone ศิลปินแนว Op Art ชาวอาเจนตินิส-สแปนิช เป็นบุคคลที่น่าจับตามองในวงการศิลปะและเขายังดึงดูดความสนใจจากแบรนด์นาฬิกา Zenith จนนำมาสู่ความร่วมมือที่สะท้อนการบรรจบกันของโลกแห่งศิลปะและศาสตร์แห่งการผลิตนาฬิกาที่ลงตัว ไม่เพียงแค่การได้รับเชิญให้เนรมิตอาคารโรงงาน Zenith ที่ยิ่งใหญ่แล้ว Felippe Pantone ยังได้ร่วมสร้างสรรค์คอลเลกชันนาฬิการ่วมกับ Zenith ต่อเนื่องถึงสามคอลเลกชันแล้ว ในบทสนทนานี้เขาได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของการเข้ามาร่วมงานกับ Zenith และแนวคิดเบื้องหลังการทำงานร่วมกับ Zenith ในการสร้างสรรค์นาฬิกาด้วย

อยากให้คุณช่วยเล่าถึงสไตล์ของการสร้างสรรค์ศิลปะของคุณสักเล็กน้อย?
สไตล์ของผมมีรากฐานจากความหลงใหลที่เป็นจุดตัดระหว่างความเป็นอดีตในรูปแบบอนาล็อกและความเป็นอนาคตในแบบดิจิทัล ผมดึงเอาศิลปะแนว Op Art มาใช้เป็นหลักโดยเน้นที่การสร้างประสบการณ์จากมิติการมองที่ท้าทายการรับรู้และกระตุ้นความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวและความมีชีวิตชีวา ผลงานของผมมักจะผสมผสานการไล่เฉดสีที่สดใส ลวดลายมัวเร (moiré) และภาพลวงตา ซึ่งทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดผู้ชมให้ร่วมสื่อสารกับผลงานสไตล์นี้สะท้อนถึงโลกของเรา ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง ซึ่งเทคโนโลยีและวิถีทางดั้งเดิมได้มาบรรจบกันในรูปแบบที่คาดไม่ถึง

คุณได้มารู้จักกับแบรนด์ Zenith ได้อย่างไรและตัดสินใจร่วมงานกับแบรนด์ได้อย่างไร?
ผมและ Zenith ได้ทำความรู้จักกันจากการที่ทั้งผมและแบรนด์ต่างก็ชื่นชมผลงานการสร้างสรรค์ของกันและกัน ผมคุ้นเคยกับชื่อเสียงของ Zenith ในเรื่องของการก้าวข้ามขีดจำกัดในการผลิตนาฬิกาอยู่แล้ว และทาง Zenith ก็รู้ดีถึงแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะของผม การร่วมงานกับ Zenith ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อทีมงานของแบรนด์ได้เข้ามาหาและเล่าถึงความรู้สึกสนใจในศักยภาพของการผสมผสานงานฝีมือของแบรนด์กับสุนทรียศาสตร์ของผม นับเป็นโอกาสในการสำรวจแนวทางการสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความหลงใหลในนวัตกรรมร่วมกันทำให้การตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันเป็นเรื่องง่าย

อะไรทำให้คุณรู้สึกประทับใจในแบรนด์ Zenith คุณมีสิ่งใดที่เหมือนกับแบรนด์บ้างหรือไม่?
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับ Zenith คือความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศและนวัตกรรม พวกเขาไม่กลัวที่จะเสี่ยงและท้าทายสถานะเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมก็สัมผัสได้ในงานของผมเอง เราทั้งคู่มีแรงผลักดันอย่างไม่ลดลที่จะขยายขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคหรือการสร้างสรรค์สิ่งที่สะดุดตา นอกจากนี้ยังมีความเคารพซึ่งกันและกันในงานฝีมือ ทั้งในเรื่องของการสร้างสรรค์นาฬิกาอย่างพิถีพิถัน หรือในการสร้างงานศิลปะที่เต็มไปด้วยรายละเอียด

ในปี 2020 ความร่วมมือครั้งแรกของคุณและ Zenith คือการเพ้นท์อาคารโรงงานของแบรนด์ อยากทราบถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการได้ทำงานร่วมกันในครั้งนั้นเป็นอย่างไร?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือการได้เห็นผลงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วมีชีวิตขึ้นมา ซึ่งชิ้นงานนี้ก็มีขนาดใหญ่มากด้วย การแปลงโฉมด้านหน้าของอาคารโรงงาน Zenith เหมือนเป็นสิทธิพิเศษ ช่วงเวลาที่นั่งร้านได้ถูกรื้อออกไป และเผยให้เห็นทั้งหมดของภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นช่างคุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ เป็นเสมือนภาพที่เตือนใจเราอย่างทรงพลังว่าศิลปะสามารถกำหนดนิยามพื้นที่ใหม่และสร้างความประทับใจที่ยั่งยืนได้อย่างไร ซึ่งความร่วมมือในครั้งนั้นก็ได้กำหนดแนวทางสำหรับโครงการในอนาคตของเรา โดยแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นไปได้เมื่อศิลปะและการผลิตนาฬิกามาบรรจบกัน

การร่วมงานกับ Zenith เป็นอย่างไร โดยเฉพาะการร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นาฬิกา ทาง Zenith เปิดโอกาสให้คุณได้แสดงออกถึงแนวคิดของตนเองอย่างไร?
การทำงานร่วมกับ Zenith ถือเป็นกระบวนการร่วมมือกันอย่างลึกซึ้งตั้งแต่เริ่มต้น ทีมงานของ Zenith ต่างเคารพวิสัยทัศน์ทางศิลปะอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะในการสร้างสรรค์นาฬิการ่วมกัน ไม่ใช่แค่การนำศิลปะของเราไปถ่ายทอดลงในพื้นที่ขนาดที่เล็กลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการผสานแนวคิดของเราเข้ากับแก่นแท้ของนาฬิกาด้วย ความเปิดกว้างของ Zenith ต่อการทดลองและความเต็มใจที่จะขยายขอบเขตแนวคิดการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถนำเสนอแนวคิดที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสไตล์ของเราได้

สิ่งแรกที่คุณทำเมื่อต้องสร้างสรรค์งานศิลปะลงบนนาฬิกาข้อมือคืออะไร อะไรคือความท้าทายในเรื่องนี้?
สิ่งแรกคือการทำความเข้าใจกับพื้นที่ที่เป็นเสมือนผืนผ้าใบในการสร้างสรรค์งานของเรา ซึ่งก็คือตัวนาฬิกานั่นเอง ผมจะต้องศึกษาโครงสร้างของนาฬิกา ส่วนประกอบเชิงกล และวัสดุที่เกี่ยวข้อง ความท้าทายอยู่ที่การหาจุดสมดุลระหว่างข้อจำกัดทางเทคนิคของการทำนาฬิกากับวิสัยทัศน์ทางศิลปะ นาฬิกาแตกต่างจากผนังหรือผืนผ้าใบตรงที่มีข้อจำกัดเฉพาะเจาะจงมากในแง่ของขนาดและการใช้งาน ดังนั้นจึงต้องพิจารณาองค์ประกอบแต่ละอย่างอย่างรอบคอบ