Roger Dubuis แบรนด์นาฬิกาอิสระที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาความเป็นเลิศทางด้านการประดิษฐ์เรือนเวลา
จนเมื่อผมได้เห็นคอลเลคชั่นสำหรับสุภาพสตรี Velvet ซึ่งเป็นไฮไลท์ของแบรนด์ในปีนี้
ผมจึงสอบถาม Mr.Gregory Bruttin Product Strategy Director Of Roger Dubuis
ว่าสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอในปีนี้นั้นมุ่งเน้นไปที่งานออกแบบสำหรับผู้หญิงมากกว่าการใช้เทคนิคและกลไกจักรกลใช่หรือไม่
“สิ่งที่เรานำเสนอในคอลเลคชั่น Velvet เป็นเรื่องของกลไกจักรกลและเทคนิคชั้นสูง มันเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเรามากในการค้นหากระบวนการที่ดีที่สุด เพื่อจัดการกับอัญมณีที่นำมาประดับบนตัวเรือนคาร์บอน แทนการใช้แค่เพียงเพชร และยังมีเรื่องของกลไกที่เราพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับตัวเรือนของ Velvet ซึ่งมีการปรับแต่งอย่างประณีตโดยแทนที่ทับทิมด้วยปะการังสีแดงใน 5 ตำแหน่ง เพื่อให้มีความลึกลับและซับซ้อนเช่นเดียวกับผู้หญิง”
ผมสงสัยว่าผู้หญิงน่าจะชอบและประทับใจกับตัวเรือนที่มีค่าอย่างทองคำขาว ทองคำสีกุหลาบ หรือแพลตทินั่มมากกว่าคาร์บอน “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องมอบสิ่งเดิมๆ ให้กับผู้หญิงทั้งๆ ที่พวกเธอสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า นั่นคือเหตุผลที่เราเลือกใช้คาร์บอน แต่เราเลือกใช้คาร์บอนคนละชนิดกับนาฬิกาผู้ชาย เราใช้คาร์บอนเลเยอร์เพื่อให้มีน้ำหนักเบา และให้ความรู้สึกเรียบลื่นและสบายเมื่อสวมใส่ แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสำหรับเราการใช้เทคนิคอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่มันต้องผสานกับประเพณีแบบดั้งเดิมด้วย
ผมจะยกตัวอย่าง Blossom Velvet เราเลือกใช้คาร์บอนเพราะเราต้องการสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ แต่ในขณะเดียวกันเรายังเคารพและให้ความสำคัญกับประเพณีการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม เราจึงเลือกใช้งานเคลือบอันเป็นเทคนิคแบบดั้งเดิม แล้วประดับตัวเรือนและหน้าปัดด้วยเพชรเพื่อความงามที่สมบูรณ์แบบ และเมื่อรวมกับกลไกจักรกลอัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นใหม่ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดทำให้นาฬิกาเรือนนี้คือที่สุดของที่สุดในคอลเลคชั่นนี้”
ผมถามต่อถึงกลไกที่เขาต้องการสร้างสรรค์ในอนาคต “เราไม่ได้ต้องการที่จะพัฒนานาฬิกาให้มีแค่เพียงความซับซ้อนสูงเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และใช้งานได้จริง เพราะนี่คือตัวตนของเรา ดังนั้นกลไกที่ผมจะพัฒนาในอนาคตจะต้องเป็นกลไกที่มีทั้งความคิดสร้างสรรค์และมีประโยชน์ แต่ผมจะเก็บมันไว้เป็นความลับก่อน เพราะเราต้องการที่จะเซอร์ไพรส์”
ปิดท้ายด้วยคำถามเกี่ยวกับงานและสิ่งที่เขาจะทำหลังจบงาน “SIHH เป็นงานที่ดี ที่ทำให้ผมได้ข้อมูล และความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำหลังจบงานคือผมจะกลับไปทำงาน มันเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการทำงานพร้อมกับความคิดสดใหม่ที่ได้จากงาน มันเป็นเวลาสำหรับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับแบรนด์”
เรื่อง : Chettha Songthaveepol