Last updated: 26 ธ.ค. 2567 | 231 จำนวนผู้เข้าชม |
Maximilian Büsser อีกหนึ่งบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการนาฬิกาอิสระแห่งสวิสในยุคแรกเริ่ม ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดา และประสบการณ์การทำงานในแวดวงนาฬิกาจึงทำให้เขาได้พบกับเพื่อนพ้องมากมายที่เคยร่วมงานด้วย เขาจึงตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาของตนเองขึ้นเมื่อปี 2005 ในชื่อ MB&F ที่มาจาก Maximilian Büsser & Friends ตลอด 20 ปี ผลงานนาฬิกา MB&F ได้สร้างความประทับใจให้กับนักสะสมและผู้ชื่นชอบนาฬิกาจากทั่วโลก ด้วยการนำเสนอมุมมองผ่านผลงานที่เป็นมากกว่านาฬิกา แต่เรียกว่าจักรกลบอกเวลา (horological machine) เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้น Maximilian Büsser ได้มาเยี่ยมเยือนเมืองไทยอีกครั้ง เราได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราววิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งของการสร้างแบรนด์และการสร้างสรรค์ผลงานของ MB&F มากกว่าที่เคย รวมไปถึงอนาคตอันใกล้ที่เขาได้วางแผนการไว้
Maximilian Büsser เริ่มการสนทนาในบรรยากาศสบายๆ ว่า “อย่างที่ทุกคนได้ทราบว่าผมคือใคร และสิ่งที่ MB&F เป็นอยู่ในวันนี้แตกต่างกับเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาและสิ่งที่ผมได้คิดไว้อย่างสิ้นเชิง หากคุณถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อะไรคือจุดเริ่มต้นของ MB&F คำตอบที่ได้คือ ผมอยากมีความสุขและอยากจะรู้สึกภูมิใจในวันสุดท้ายของชีวิต ผมอยากมองย้อนกลับไปและพูดได้อย่างเต็มปากว่าผมรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ผมทำ กล่าวว่าที่ผ่านมาเราดำเนินงานในแบบของเราซึ่งไม่ได้ตรงตามตำราของวิชาบริหารธุรกิจแต่อย่างใดเลย เราไม่ได้ทำเพราะสามารถทำกำไรได้ แต่พวกเราทำเพราะรู้สึกว่า “ใช่” และเมื่อมองย้อนกลับไปเป็นเรื่องที่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ที่ทำให้ MB&F ประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้”
“มีช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้ผมเริ่มคิดว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับ MB&F ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวผม” คุณแม็กซ์เกริ่นถึงแนวทางที่อาจจะเป็นแผนการในอนาคตของตนเองและแบรนด์ โดยเล่าต่อว่า “10 ปีแรกผมอยู่ในโหมด ‘เอาชีวิตรอด’ จุดเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก จนกระทั่งวันที่ 17 มีนาคม 2020 ซึ่งตรงกับช่วงการระบาดของโควิด ผมจำเป็นต้องให้คนในทีมทุกคนกลับบ้าน อีกทั้งตัวแทนจำหน่าย รวมถึงซับพลายเออร์ต่างๆ ก็ต้องปิดชั่วคราว นั่นเป็นครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตผมที่มีความรู้สึกราวกับโดนฝังทั้งเป็น เป็นสภาวะที่ผมทำอะไรไม่ได้ แต่โชคยังดีที่ว่าสามเดือนหลังจากนั้น ทุกคนต่างติดต่อมาว่าต้องการสั่งนาฬิกามากกว่าเดิม เรียกว่าความต้องการนี้เป็นอะไรที่สุดยอด ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เราเกือบจะไม่รอดนั้น ทำให้เราเริ่มตระหนักว่า มันเป็นเรื่องที่เหนือกว่าความหลงใหล นั่นคือความรับผิดชอบ ซึ่งอายุผมกำลังจะเข้า 60 ปีในปี 2027 ผมไม่สามารถบอกกับทุกคนว่า MB&F จะยุติการผลิตหรือไม่ คุณมีเวลาเพียง 2.5 ปีในการซื้อผลงานจากเรา ผมไม่สามารถทำเช่นนั้น ผมมีคนอีก 57 คนในทีม และผมมีความรับผิดชอบต่อพวกเขา อีกทั้งพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน และแน่นอนลูกค้าของเราอีกกว่า 1,400 คนทั่วโลกตลอด 20 ปี เราไม่สามารถบอกลากันง่ายๆ แบบนั้นได้”
“ดังนั้นในช่วง 3 ปีที่ผมกำลังวางโครงการใหญ่สำหรับตัวผมเอง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนในทีมด้วย หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา MB&F ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ ยังคงสู้ต่อไป ยังคงมีไอเดียบ้าๆ และกล้าเสี่ยงเช่นที่เราเป็นมา ผมเริ่มต้นจากจุดที่ว่า หน้าที่ในบริษัทผมทำอะไรบ้าง อย่างแรกเลย คือการเป็น creative director เนื่องด้วยผลงานนาฬิกาทั้งหมดมาจากไอเดียของผม ยกเว้นนาฬิกา Perpetual และ Sequential ที่เป็นของ Stephen McDonald ดังนั้นก็จะต้องมีผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ creative director ต่อจากผม และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ชั่วข้ามคืน ทั้งนี้ผมได้เล็งเห็นคนๆ นั้นแล้ว เป็นนักออกแบบหนุ่มชาวเยอรมันที่มีความสามารถ เคยได้มาฝึกงานกับเราเมื่อราวๆ 6-7 ปีก่อน ขณะนี้เขามีดีไซน์สตูดิโอของตนเองในเบอร์ลิน ตลอด 3 ปีเราได้ร่วมงานกันมาและได้ปลูกฝังเขาเพื่อที่จะเป็น creative director คนต่อไป กล่าวได้ว่าเขาเป็นคนที่มีไอเดียที่เจ๋งมาก ซึ่งวันหนึ่ง “แม็กซ์คนต่อไป” ก็จะมารับช่วงต่อ ส่วนหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่งของผมซึ่งเป็นงานที่ผมทำได้แย่มากจริงๆ และเป็นสิ่งที่ผมไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ คือ CEO ของบริษัท ซึ่งโชคดีว่า 3 ปีที่ผ่านมาผมได้แต่งตั้งคณะผู้บริหารระดับสูงไว้ 3-4 คน เรามีการพบปะพูดคุยกันสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อคุยถึงเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝ่ายบุคคล กลยุทธ์ เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีเพียง 15% ที่เป็นเรื่องที่ผมเท่านั้นที่ต้องตัดสินใจเอง แต่อีก 85% ก็จะเป็นการตัดสินใจจากทีมผู้บริหาร ซึ่งในอนาคตหนึ่งในคณะผู้บริหารนี้ก็อาจจะก้าวขึ้นมาเป็น CEO ของบริษัท และจะเป็นผู้ตัดสินใจแทนผม เพื่อให้ผมได้กลับไปทำสิ่งที่ผมรักได้มากขึ้น”
คุณแม็กซ์มักจะมีมุมมองของความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ที่มีความแตกต่าง กล่าวได้ว่าเขาเน้นย้ำเสมอว่าการสร้างแบรนด์ MB&F ถึงแม้จะเป็นความเสี่ยงแต่มีความหมายที่แท้จริงคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหลายๆ คนได้ “ความสำเร็จ หรือในที่นี้คือ ความต้องการของลูกค้าที่มีต่อ MB&F หากว่ามีมากขึ้นๆ ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่อันตรายอยู่พอสมควร เมื่อเรายังไม่ประสบความสำเร็จ เราจะกล้าเสี่ยง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีไมตรีกับทุกคน ในทางกลับกัน การได้มาซึ่งความสำเร็จจะทำให้เราหยุดที่จะเสี่ยง หยุดที่จะสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ตรงกับเจตนารมณ์และเราจะไม่ทำเช่นนั้น เราเคยคุยกันในทีมว่า ทำไม MB&F ถึงยังคงอยู่ได้ เรามีดีอะไร เราคือผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ใช่หรือไม่ เราถกกันช่วงระยะเวลาหนึ่งก็สรุปว่านั่นไม่ใช่ความเป็นแบรนด์ MB&F ที่อยู่ได้เพราะอยากจะเป็นแรงบันดาลใจ อยากมอบความคิดสร้างสรรค์ อยากให้ผู้คนกล้า ไม่ได้หมายความว่าการคิดต่าง จะกลายเป็นคนแตกแยก ไม่ใช่ว่าทุกคนไปขวา เราไปซ้าย แต่การคิดต่าง คือการค้นหาในสิ่งที่เป็นตัวตนจริงๆ และทีมงานทำสิ่งนี้มาตลอด 19–20 ปี ผมคิดว่าถ้าพวกเราทำได้ คุณก็น่าจะทำได้อย่างพวกเราเช่นกัน และหวังว่าจะประสบความสำเร็จ ถ้าหากยังคงสามารถให้แรงบันดาลใจกับผู้คนเพื่อให้เขามีความคิดสร้างสรรค์และกล้าที่จะลองได้ MB&F ก็พร้อมที่จะยืนหยัดอยู่ในอุตสาหกรรมนาฬิกาต่อไป”
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567